รายงานการศึกษาตลาดโดรนจาก Meticulous Research ฉบับเดือนธันวาคม 2019 เผยว่าการใช้โดรนในเกษตรกรรมจะมีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านเหรียญในปี 2025 โดยมีอัตราการเติบโต CAGR 31.1% จากปี 2019 ถึงปี 2025
ภาคการเกษตรนั้นเป็นหนึ่งในภาคที่คาดกันว่าจะมีการนำเทคโนโลยีโดรนมาใช้กันมากที่สุด โดยโดรนและเซ็นเซอร์นั้นจะเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถเพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการใช้ข้อมูล ลดภาระการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต ผ่านการประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เช่น การตรวจสอบและวิเคราะห์สถานะของแปลง ดิน พืชที่ปลูก และปศุสัตว์ การฉีดพ่นสารให้กับพืช การเก็บข้อมูลการเพาะปลูก ซึ่งเรื่องเหล่านี้หากเกษตรกรทำเองนั้นอาจต้องใช้เวลาและแรงงานเป็นอย่างมาก
งานศึกษาจาก Meticulous Research วิเคราะห์ว่าการใช้โดรนเข้ามาช่วยนั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างมาก เช่น การสเปรย์พืชพันธุ์โดนโดรนจะทำให้งานดังกล่าวเร็วขึ้น 40-60% ในขณะลดปริมาณสารเคมีที่ใช้ลง 30-50% และนอกจากนี้ยังอาจช่วยประหยัดน้ำได้สูงถึง 90%
ในอัตราการเติบโต 31.1% ที่รายงานฉบับนี้คาดการณ์จะเป็นการเติบโตของทั้งฝั่งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ โดยฝั่งซอฟตแวร์จะมีการเติบโตที่สูงกว่า นำโดยซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำ Precision Agriculture ที่จะช่วยเพิ่ม ROI ให้กับการลงทุนในเทคโนโลยีโดรนอย่างมาก
ในปี 2019 ที่ผ่านมา แอปพลิเคชันที่มาแรงที่สุดของโดรนในภาคการเกษตรนั้นได้แก่การตรวจจับวัชพืช การนับจำนวนพืชพันธุ์ที่ปลูก และการตรวจสอบสุขภาพของพืชที่ปลูก
ในอนาคต แอปพลิเคชันที่คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของโดรนเพื่อการเกษตร คือการประยุกต์ใช้โดรนเพื่อการชลประทานและการจัดการกับภาวะแล้ง เช่นการใช้โดรนติดกล้องจับความร้อนที่สามารถตรวจจับการรั่วของท่อในระบบจ่ายน้ำ