University College London Hospitals (UCLH) หนึ่งในโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรประกาศความร่วมมือ 3 ปีกับสถาบันวิจัยปัญญาประดิษฐ์และวิทยาศาสตร์ข้อมูลแห่งชาติ Alan Turing Institute ในการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาการในบริการให้โรงพยาบาล
การร่วมมือระหว่าง UCLH และ Turing Institute ในครั้งนี้ประกอบไปด้วยการลงทุนของ UCLH เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถตรวจจับความเสี่ยงหรือวินิจฉัยโรคได้ โดยมีเป้าหมายในการแบ่งเบาภาระของทีมแพทย์พยาบาลและจัดสรรการให้บริการภายในโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยโครงการแรกของการร่วมมือนี้คือการนำเทคโนโลยี AI เข้าช่วยปรับปรุงแผนกอุบัติเหตุและแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่มีเป้าหมายในการให้การรักษาแก่ผู้ป่วยทุกรายอย่างช้าที่สุดภายใน 4 ชั่วโมง ซึ่งปัญญาประดิษฐ์นั้นอาจเข้ามาช่วยวินิจฉัยเบื้องต้นถึงความเสี่ยงของผู้ป่วย และแจ้งทีมแพทย์ให้ดำเนินการรักษาได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิมหากเป็นกรณีความเจ็บป่วยร้ายแรง
นอกไปจากโครงการดังกล่าวแล้ว ทั้ง 2 สถาบันยังมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เช่น โครงการแจ้งเตือนผู้ป่วยให้มาพบแพทย์หากระบบปัญญาประดิษฐ์พบว่าผู้ป่วยมีแนวโน้มจะไม่มาตามนัด โครงการวิเคราะห์ภาพถ่าย CT scan ด้วยเทคนิค machine learning และโครงการเปลี่ยนขั้นตอนการทดสอบ pap smear ให้เป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในการทำงานที่ไม่ซับซ้อนนักซ้ำๆ ทำให้บุคลากรในโรงพยาบาลสามารถหันไปปฏิบัติหน้าที่อื่นๆที่ซับซ้อนมากขึ้น หรือต้องการบุคลากรที่เป็นมนุษย์จริงๆมากกว่า
ศาสตราจารย์ Marcel Levi ผู้บริหารระดับสูงของ UCLH เชื่อว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นั้นจะไม่มีวันเข้ามาแทนที่แพทย์ แต่การใช้ข้อมูลและระบบที่ผ่านการเรียนรู้จนเชี่ยวชาญจะสามารถช่วยให้โรงพยาบาลสามารถจัดการกับการให้บริการได้ดีขึ้นกว่าเดิม
