ในยุคสมัยปัจจุบันที่ข้อมูลเป็นเงินเป็นทองนั้นธุรกิจต่างก็เสาะแสวงหาวิธีการใหม่ๆมาเก็บข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น ทว่าในมุมหนึ่ง อุตสาหกรรมภาพยนตร์และสื่อบันเทิงที่ต้องส่งต่อคอนเทนต์ของพวกเขาออกสู่ลูกค้าผ่านตัวกลางมากมายกลับไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้ามาไว้ในมือได้เลยแม้แต่น้อย มาดูกันว่า Watcha แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งจากเกาหลีใต้มีแผนการอย่างไรในการนำบล็อกเชนมาแก้ปัญหานี้ให้บรรดาสตูดิโอทั้งหลาย
คงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปแล้วเมื่อในการรับชมภาพยนตร์หรือซีรีส์บนบริการสตรีมมิ่งแต่ละครั้ง ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาในการรับชม จุดที่เบื่อจนกดออกจากการชม ความถี่ในการกดหยุดพัก หรืออื่รนๆ จะถูกเก็บและนำไปวิเคราะห์เพื่อนำมาปรับปรุงบริการสตรีมมิ่งให้ดีขึ้น ทว่าสำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ต้องการข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงการสร้างสื่อบันเทิงของตัวเอง สิ่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
Watcha ในฐานะผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายใหญ่ของเกาหลีใต้เล็งเห็นถึงปัญหาที่สตูดิโอทั้งหลายประสบ แล้วจึงกรั่นกรองออกมาเป็นไอเดียที่เรียกว่า Contents Protocol ซึ่งจะช่วยให้สตูดิโอเข้าถึงข้อมูลของผู้ชมทางบ้าน ไอเดียของพวกเขาเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ด้วยการตั้งแพลตฟอร์ม Blockchain ขึ้นเพื่อเป็นระบบในการจัดเก็บข้อมูล เครือข่าย Contents Protocol นี้มีกลไกที่ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้สตูดิโอเข้าถึงข้อมูลพฤติกรรมของพวกเขาหรือไม่ โดยใช้ Token เป็นแรงจูงใจให้กับผู้ชมที่ยอมให้ใช้ข้อมูล ซึ่งอาจเรียกได้ว่า win-win กันทั้งสองฝ่าย: สตูดิโอได้เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ และผู้ใช้ก็ได้ค่าตอบแทน
หลังได้เสนอไอเดียไปกับกับผู้ผลิตสื่อหลายราย ผลปรากฏว่า Contents Protocol นี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากสตูดิโอทั้งในประเทศเกาหลีใต้และระดับโลกถึงขั้นอยากทดลองใช้เลยทีเดียว ทำให้ทีมงาน Watcha กำลังเร่งสรรหาเทคโนโลยี DLT ที่เหมาะสมกับการนำมาพัฒนาแพลตฟอร์มเก็บข้อมูลดังกล่าว ปัจจุบันพวกเขาได้มีการทดลองระบบบนเทคโนโลยี DLT ที่หลากหลาย เช่น มีการทดลองระบบร่วมกับฝ่ายบล็อกเชนของ Kakao Corp. บริษัทอินเทอร์เน็ตชื่อดังในประเทศ
Contents Protocol นั้นมีแผนที่จะเปิดตัวแอป Proof-of-Concept ในรูปแบบของ Distributed App (DApp) ก่อนในช่วงปีนี้ และกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆเข้าร่วมงานในโปรเจกต์นี้
บทสนทนาเกี่ยวกับข้อมูลที่เกิดขึ้นบ่อยๆในปัจจุบันนั้นมักมีคำว่าความเป็นส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ ผู้คนเริ่มแสดงความไม่พอใจที่บริษัทยักษ์ใหญ่แอบเก็บข้อมูลของพวกเขาอย่างลับๆด้วยวิธีที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และนี่เป็นหนึ่งแง่มุมที่ทำให้ Contents Protocol นั้นน่าสนใจ เพราะระบบดังกล่าวตั้งคำถามให้เราเก็บกลับไปคิดว่า หากมีผลตอบแทน เราจะยอมแลกข้อมูลส่วนตัวเราให้ไปอยู่ในมือของบริษัทหรือไม่
