คำว่า Web 3.0 หรือ Web 3 ที่หมายถึงโลกของ World Wide Web ที่มีการกระจายศูนย์กระจายอำนาจโดยใช้เทคโนโลยี Blockchain นั้นกำลังเริ่มกลายเป็นเทรนด์ที่มีการพูดถึงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในบทความจาก TechCrunch ได้แชร์ให้เห็นถึง 5 เทรนด์ NFT ที่จะสามารถนำทุกท่านเข้าสู่โลกของ Web 3.0 ได้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งท่านอาจจะนึกไม่ถึงว่า มันอยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากบนโลก Twitter ที่หลาย ๆ คนเชื่อว่า Web 3.0 กำลังจะมาแทนที่ Web 2.0 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ หากแต่ก็มีอีกมุมหนึ่งของฝั่งที่อยู่ใน Web 2.0 ก็มองว่ามันอาจจะเป็นแค่คำโฆษณาชวนเชื่อสำหรับผู้ที่ลงทุนในคริปโตในการมองหากำไรเท่านั้นเนื่องด้วยเทคโนโลยี Blockchain นั้นมีข้อจำกัดในขอบเขตโดยพื้นฐานของมันเอง
แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในการทำให้โลกของ Web 3.0 อาจจะมาทดแทนหรือว่าแทรกซึมกับโลกปัจจุบันที่ผู้คนนั้นเสพติดผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอย่างมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโลกโซเชียลต่าง ๆ อย่าง Facebook, Twitter หรือ TikTok ก็ตาม นั่นก็คือสิ่งที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตโดยส่วนใหญ่จะสนใจ ซึ่งก็คือพวกเขาเหล่านั้นจะ “ปรากฎหรือแสดงตัวในโลกโซเชียลอย่างไร” สิ่งนี้เองที่อาจจะเป็นสะพานเชื่อให้เปลี่ยนถ่ายจากโลก Web 2.0 ให้กลายเป็น Web 3.0 ได้ และกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ คือ NFT
และนี่คือ 5 เทรนด์ NFT ที่กำลังจะนำทุกท่านในโลกของโซเชียลเข้าสู่โลก Web 3.0 ได้อย่างแนบเนียน ดังนี้
การตรวจสอบ NFT (NFT Verification)
อนาคตอันใกล้ เชื่อว่าเหล่าแพลตฟอร์มโซเชียลหลัก ๆ จะมีการพัฒนาระบบตรวจสอบ NFT ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกระเป๋า wallet แล้วแสดง NFT ที่เป็นของคุณบนโปรไฟล์ (Profile) ได้ ซึ่งในมุมกลับกันก็จะสามารถตรวจจับไฟล์ที่ถูกขโมยไปได้อย่างรวดเร็ว
ไซด์เชน (Sidechains)
ไซด์เชนต่าง ๆ อย่างเช่น Polygon นั้นกำลังเป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะส่งผลให้ราคา NFT ลดลงมาจนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น และด้วยราคาค่า Gas ที่เกือบจะเป็นศูนย์นั้นจะทำให้นักพัฒนาระบบสามารถปฏิสัมพันธ์ (Interactivity) กันและเชื่อมต่อมายังโลกของ NFT ได้มากขึ้นกว่าเดิม นั่นอาจทำให้การเข้าถึงจากโลกโซเชียลเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง ซึ่งไม่แน่อาจจะสามารถมาซื้อขาย NFT กันได้บนโลกโซเชียลที่ใช้งานกันอยู่แล้วได้ทันที เป็นต้น
เพลง (Music)
ช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา งาน NFT มักจะมุ่งเน้นไปที่ภาพศิลปะต่าง ๆ แต่สิ่งถัดไปที่จะมาต่อและเชื่อว่ามันจะเป็นคลื่นลูกใหญ่กว่าเดิมอีก นั่นก็คือ “เพลง” เพราะการสะสมงานศิลปะจริง ๆ หรือ NFT ที่ชอบนั้นคือการแสดงออกอย่างหนึ่งเพื่อให้คนรอบข้างเห็นถึงรสนิยมของตัวเองได้ ซึ่งเพลงก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่งที่นักสะสมจะมองหาอย่างแน่นอน ถ้าหากว่าเพลงที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นที่ต้องการและมีจำนวนจำกัด
อุปกรณ์สวมใส่ (Wearables)
ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 พวกอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ อย่างเสื้อผ้า รองเท้า แว่นตากันแดดนั้นจะเป็นที่นิยมกันอย่างมากเพราะเราต้องไปพบปะเจอหน้ากัน แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดขึ้น พฤติกรรมผู้คนก็เริ่มเปลี่ยน โดยเลือกซื้อเฉพาะชุดท่อนบนเท่านั้นแทนเนื่องจากต้องทำงานจากบ้านและเปิดกล้องผ่านการประชุมออนไลน์ซึ่งจะเห็นแค่ครึ่งตัวเท่านั้น ซึ่งโลกก็อาจจะกำลังเปลี่ยนแปลงไปอีกถ้าหากโลกของ Metaverse ต่าง ๆ เกิดขึ้นจริง โดยถ้าผู้คนอยู่ในโลก Metaverse กันมากขึ้นก็จะต้องมีเรื่องการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนบนโลก Metaverse ที่แตกต่างกันในแต่ละคนตามมา ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือเครื่องแต่งกายต่าง ๆ นั่นเอง สิ่งนี้เองเลยทำให้เราเริ่มเห็นการซื้อขายสิ่งของอย่างเช่นรองเท้าผ้าใบหรือว่าหมวกในรูปแบบของ NFT กันมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็เป็นได้
อวตารแบบไดนามิก (Dynamic Avatars)
อวตารแบบไดนามิกนั้นคือเป็นเหมือนตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยรองรับผู้ใช้จะสามารถปรับแต่งการแสดงออกของอวตาร ท่าทาง เสื้อผ้า สิ่งของต่าง ๆ ได้ เต้นหรือว่าจะให้พูดอะไรบางอย่างก็ได้เป็นต้น ซึ่งสิ่งนี้จะเริ่มเห็นมีการใช้งานกันมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่นบรรดาเซเลบเริ่มนำภาพ NFT มาแสดงกัน หรือบางคนก็เริ่มเปลี่ยนภาพ Profile มาใช้ภาพของ Bored Ape กันแล้วก็มี ซึ่งอวตารแบบไดนามิกนี้เองจะกลายเป็นเหมือนโอกาสที่คนทั่ว ๆ จะสามารถแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้มากขึ้นกว่าเดิมบนโลกโซเชียลมีเดียในอนาคต และจะเป็นส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ทั้งหลายที่จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมา
ทั้งหมดนี้คือ 5 เทรนด์ NFT ที่น่าจับตามองสำหรับโลกแห่งอนาคตที่อาจจะกำลังเดินไป ซึ่งก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสิ่งเหล่านี้จะมาเร็วหรือช้า หรือว่าจะนานแค่ไหน แต่เชื่อว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่ NFT และ Web 3 มีการพูดถึงกันในวงกว้างมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ที่มา: https://techcrunch.com/2022/01/06/5-nft-trends-that-will-bring-social-media-audiences-into-web3/