เทคโนโลยีที่มีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้คนส่งผลให้ความปลอดภัยทางไซเบอร์ทวีความสำคัญมากขึ้น แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากความเสียหายจากการโจมตีทางไซเบอร์ไม่ใช่เพียงข้อมูลที่หลุดรั่วหรือความเสียหายทางการเงิน จะเกิดอะไรขึ้นหากการโจมตีทางไซเบอร์สามารถสั่นคลอนระบอบประชาธิปไตยอันเป็นพื้นฐานของรัฐได้ สารคดี Kill Chain: The Cyber War on America’s Elections พาเราไปเจาะลึกถึงเหตุการณ์และความเป็นไปได้ที่การโจมตีทางไซเบอร์จะเข้ามาสั่นคลอนการเลือกตั้งและประชาธิปไตยของประเทศสหรัฐอเมริกา
Kill Chain: The Cyber War on America’s Elections
- กำกับ: Simon Ardizzone Russell Michaels และ Sarah Teale
- ปีที่เริ่มฉาย: 2020
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 31 นาที
- ช่องทางการรับชมในประเทศไทย: HBO GO, Apple TV
การเลือกตั้งโดยทั่วไปในสหรัฐอเมริกานั้นจะถูกจัดขึ้นโดยฝ่ายปกครองท้องถิ่น ส่งผลให้ระบบ อุปกรณ์ และกระบวนการในการเลือกตั้งนั้นไม่ได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ความแตกต่างหลากหลากหลายในขั้นตอนการเลือกตั้งนี้ลวงให้ผู้คนจำนวนมาก รวมไปถึงผู้ที่มีอำนาจระดับสูงในองค์กรด้านกฎหมายและความมั่นคงเข้าใจผิดไปว่าการจะโจมตีการเลือกตั้งของสหรัฐนั้นเป็นไปได้ยากถึงขั้นเป็นไปไม่ได้
Harri Hursti ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จากประเทศฟินแลนด์ไม่คิดเช่นนั้น เขาได้ทำการศึกษาขั้นตอนการเลือกตั้ง อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเลือกตั้งและพบว่าไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรเลยที่จะเจาะระบบเข้าไปโจมตี หรือเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง ดังที่เขาได้เคยสาธิตการปลอมแปลงผลเลือกตั้งผ่านเครื่องเลือกตั้งไปในปี 2006 และข่าวร้ายก็คือ เครื่องรุ่นนี้ยังมีการใช้งานในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2016 ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น อุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งบางรุ่น (เช่น Diebold/Dominion AccuVote TSX) ยังมีวางขายมือสองในศูนย์รับรีไซเคิล และเมื่อเขานำเจ้าเครื่องเลือกตั้งเหล่านี้ไปยังงานสัมมนา Defcon ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ที่สนใจด้านความปลอดภัยไซเบอร์และเหล่าแฮคเกอร์ทั้งหลาย และปล่อยให้พวกเขาได้ลองแฮ็กมันดู ก็พบว่าเหล่าแฮคเกอร์สามารถเจาะเข้าไปยังระบบของอุปกรณ์เลือกตั้งได้ทุกรุ่นที่เขานำไปในร่วมงาน
หนึ่งในช่องโหว่ที่ใหญ่และทำให้หลายคนเข้าใจผิดคือความหลากหลายจอมปลอมของกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐ เพราะแท้จริงแล้วสหรัฐมีผู้ให้บริการอุปกรณ์และซอฟต์แวร์เลือกตั้งเพียง 3 รายเท่านั้น ผู้ให้บริการเหล่านี้ไม่ยินยอมให้มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยโดยผู้เชี่ยวชาญ และไม่มีความโปร่งใสในตัวผลิตภัณฑ์เนื่องจากความลับทางการค้า
แน่นอนว่ากระบวนการเลือกตั้งและระบบใดๆที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกานั้นได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากรัฐบาลของประเทศอื่น มีความพยายามอย่างสม่ำเสมอที่จะโจมตีการเลือกตั้งและบั่นทอนประชาธิปไตยของสหรัฐ ทว่าด้วยเหตุผลที่ไม่อาจทราบได้รัฐบาลสหรัฐกลับพยายามปกปิดประเด็นการโจมตีทางไซเบอร์จากสาธารณชน ดังเช่นกรณีในปี 2016 ที่ Reality Winner เจ้าหน้าที่ NSA ได้ออกมาปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีจากรัสเซีย แต่กลับโดนตัดสินโทษจำคุกกว่า 5 ปี
Kill Chain: The Cyber War on America’s Elections พาเราไปเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าประชาธิปไตยอาจเปราะบางกว่าที่เราคิด และการเข้าไปก่อกวนกระบวนการเลือกตั้งผ่านการโจมตีทางไซเบอร์ที่ไม่รัดกุมก็ส่งผลเสียได้อย่างมหาศาล โดยตัวอย่างมีให้เห็นแล้วในเหตุการณ์การโจมตีอุปกรณ์เลือกตั้งในปี 2016 ที่ทำให้การเลือกตั้งต้องเปลี่ยนมาใช้กระดาษแบบออฟไลน์ ก่อให้เกิดความล่าช้า และมีผู้ใช้สิทธิ์บางส่วนที่ต้องงดออกเสียงไปเพราะเหตุผลด้านเวลา
“ถ้าเป้าหมายของคุณคือการบั่นทอนประชาธิปไตย จริงๆแล้วคุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงผลเพื่อแฮ็กการเลือกตั้งก็ได้ เพียงคุณขัดขวางไม่ให้ผู้คนไปหย่อนบัตร คุณก็แฮ็กการเลือกตั้งได้แล้ว”
Sue Halpern นักเขียนและนักข่าวจาก The New Yorker
Kill Chain: The Cyber War on America’s Elections ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอีกมากมายให้ติดตาม รับชมสารคดีเรื่องนี้ได้ผ่าน HBO GO แล้ววันนี้ หรือเช่าผ่าน Apple TV
และรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่นี่