ในช่วงปีที่ผ่านมา คำว่า Metaverse และเทคโนโลยี AR/VR นั้นได้มีการพูดถึงกันในวงกว้างอย่างมากจนกลายเป็น Buzzword ที่ใคร ๆ ก็พูดถึงกันไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว แต่ทว่ารายงานใหม่จากทาง Productsup ที่ได้ดำเนินการสำรวจกับผู้บริโภค กลับพบว่า 60% ของนักช็อปไม่ได้มีความสนใจใด ๆ ในการซื้อของบนโลกเสมือนเลยในตอนนี้
โดยรายงานของ Productsup นี้ได้ดำเนินการสำรวจผู้บริโภค 5,7000 คนที่มีอายุมากกว่า 16 ปีขึ้นไปในโซนสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยสอบถามถึงความชอบและความคาดหวัง พร้อมกับพฤติกรรมเกี่ยวกับประสบการณ์การช็อปปิ้งไฮบริดของแต่ละคน
อย่างที่รู้กันว่าด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีทั้ง Metaverse และ AR/VR มีโอกาสที่จะทำให้เกิดตลาดซื้อขายของออนไลน์บนโลกเสมือนจริงได้อย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งนี้จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับการช็อปปิ้งแห่งโลกอนาคตได้ ดังที่เราก็จะเริ่มเห็นหลาย ๆ แบรนด์หลาย ๆ ร้านค้าวิ่งเข้าไปโลกเสมือนมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่หลังจากที่ทาง Productsup ได้ดำเนินการสำรวจรสนิยมและความคาดหวังของผู้บริโภคในเรื่องประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบไฮบริดดิจิทัล กลับพบว่า 60% ของผู้บริโภคในแบบสำรวจนั้นไม่มีความสนใจใด ๆ ในการซื้อสินค้าบนโลกเสมือน ณ ตอนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่มากอยู่พอสมควร แต่ด้วยตัวเลขรายได้บนโลก Metaverse ที่คาดการณ์ว่าน่าจะสูงไปถึง 800 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงไม่แปลกใจที่ทำให้หลาย ๆ องค์กรที่มองการณ์ไกลเริ่มกระตือรือร้นที่จะสร้างบริการไว้ล่วงหน้าก่อนที่ลูกค้าจะเริ่มทยอยกันเข้ามาในวงการที่มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้
ทั้งนี้ ภาพรวมของรายงานจาก Productsup ยังได้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มจะให้ความสนใจกับประสบการณ์ดิจิทัลที่มีความโปร่งใส (Transparency) เข้าถึงได้ง่าย (Accessibility) และพร้อมใช้งาน (Availability) อีกด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริโภคมักจะคิดถึงเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) และเรื่อง DEI (Diversify, Equity, Inclusion) กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังที่จะเห็นว่าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ มักจะมีการคิดถึงว่า “ทำไม” กับ “อย่างไร” ในกระบวนการผลิตสินค้าชิ้นนั้นขึ้นมา ซึ่งผู้บริโภคมักจะเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ต้องทำลายด้วยการฝังกลบ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำ (Reusable) ได้หรือว่ารีไซเคิล (Recycle) ได้ แต่ทว่าผู้บริโภคกลับบอกว่าข้อมูลเรื่องการใช้ซ้ำและการรีไซเคิ้ลของผลิตภัณฑ์นั้นค้นหาได้ยากมาก
ทั้งนี้ ถ้าหากจำแนกผู้บริโภคเป็นกลุ่ม จะพบว่าคน Gen Z นั้นดูจะยินดีกับการเข้าไปช็อปปิ้งบนโลก Metaverse หรือว่าซื้อของบนโลกดิจิทัลมากกว่ากลุ่มคนที่มีอายุมาก ซึ่งคนกลุ่ม Gen Z จะชอบข้อมูลที่มีการนำเสนอการเปรียบเทียบบนโลกออนไลน์ หรือว่ามี QR Code ใช้งานก็ยินดี แต่ถ้าเป็นคนที่อยูในกลุ่มอายุมากกว่า 55 ปี ก็จะต้องการข้อมูลที่ง่ายต่อการค้นหาและมีข้อมูลที่อยู่ภายในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ไว้ให้ครบถ้วนแทน
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าผู้บริโภคอาจจะไม่ได้สนใจประสบการณ์การช็อปปิ้งอะไรมากมัก โดยสิ่งที่พวกเขาต้องการมากกว่าคือการเข้าถึงข้อมูลของผลิตภัณฑ์ และ “ดีล” ที่มีให้ไม่ว่าจะบน Metaverse หรือว่าหน้าร้านค้า ซึ่งไม่ว่าจะเป็นดีลที่ไหน ผูุ้บริโภคก็ดูเหมือนจะยินดีซื้อสินค้ามากกว่าถ้าหากว่ามีดีลให้ นั่นแปลว่าถ้าหากต้องการทำตลาดบนโลก Metaverse ก็อาจจะต้องมีคูปองดีลลดราคาให้เพื่อเชิญชวนให้ไปจับจ่ายใช้สอบบนโลกเสมือนกันมากขึ้นก็เป็นได้
ไม่แน่ว่าตลาดซื้อขายสินค้าโลกเสมือนก็อาจจะกลายเป็นแหล่งซื้อขายแห่งอนาคตแทนโลกแห่งความเป็นจริง หากเทรนด์การจับจ่ายใช้สอย การใช้ชีวิต และสังคมนั้นเปลี่ยนแปลงไป จึงคงต้องจับตาดูวิวัฒนาการที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป แต่ทั้งนี้ ลองสำรวจตัวเองว่าพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างแล้ว เพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมไว้เมื่อวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้ที่สนใจรายงานฉบับเต็มจากทาง Productsup สามารถอ่านได้ที่นี่