Singapore Telecommunications (SingTel) ได้ออกมารายงานล่าสุดว่าผลกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมานั้นร่วงลงถึง 23% โดยบริษัทได้อ้างถึงผลกระทบที่ไนจีเรีย อันเนื่องจากค่าเงินไนรา (Naira) อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
โดย SingTel ปัจจุบันนั้นเป็นบริษัท Telco ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมี Bharti Airtel บริษัท Telco ข้ามชาติจากอินเดียเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 29.5%
SingTel เผยว่าผลกำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าวที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 438 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (355 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เทียบกับปีก่อนนั้นจะอยู่ที่ 628 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยในช่วง 3 เดือนที่สิ้นสุด 30 มิ.ย.นั้น SingTel ได้บันทึกผลขาดทุนพิเศษสุทธิจำนวน 88 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์อันเนื่องมาจากการอ่อนค่าอย่างมากของค่าเงิน Naira ของไนจีเรีย ที่ส่งผลกระทบให้กำไรร่วงอย่างมีนัยสำคัญ
“แม้ว่าพวกเราจะเห็นว่ามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและมีผลงานที่มากกว่าเดิมจากผู้ร่วมงานในภูมิภาค แต่ตลาดที่เริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น การแข่งขันเพิ่มขึ้น และบริการแบบดั้งเดิมที่ค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่องนั้นได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ Telco หลักของพวกเราในสิงคโปร์และออสเตรเลีย” CEO แห่ง SingTel คุณ Yuen Kuan Moon กล่าว
ตัวอย่างเช่น Optus แผนที่สร้างรายได้ระดับต้น ๆ ของ SingTel นั้นก็เห็นว่ามีรายได้การดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างไตรมาส หากแต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อและการตัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพื่อให้กลายเป็นกำไรการดำเนินงาน ก็ยังส่งผลให้มีผลประกอบการร่วงไป 5.5% อยู่ที่ 456 ล้านดออลาร์สิงคโปร์ เป็นต้น