กองทัพตุรกีเล็งใช้ระบบตรวจจับผู้ก่อการร้ายอัตโนมัติที่มีเบื้องหลังเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ต่อกรกับการก่อการร้ายและเสริมความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับระบบต่างๆ
ระบบความปลอดภัย ASTARUS ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัทความมั่นคงทางอากาศและซอฟต์แวร์ HAVELSAN นี้ทำงานโดยการผสานพลังระหว่างเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับใบหน้าและป้ายทะเบียนรถ และการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลในการป้องกันการก่อการร้าย โดยตัวระบบจะทำการสแกนภาพใบหน้าผ่านความสมมาตรของรูปหน้า อัตราส่วนของดวงตา จมูก และคิ้ว อีกทั้งยังสามารถทำการวิเคราะห์ท่าทางการเดินของผู้ต้องสงสัยได้
ข้อมูลใบหน้า ท่าทางการเดิน หรืองทะเบียนรถดังกล่าว จะถูกนำไปเทียบกับข้อมูลของผู้ก่อการร้ายหรือผู้มีประวัติอาชญากรรม และทำการแจ้งเตือนไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องหากมีความเสี่ยงเพื่อดำเนินการตามความเหมาะสม โดยตัวระบบจะทำการเรียนรู้และพัฒนาประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติตามข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีมพัฒนาของ ASTARUS นั้นยังคงคร่ำเคร่งอยู่กับการเพิ่มความแม่นยำของระบบป้องกันการก่อการร้ายที่ในปัจจุบันอาจมีข้อผิดพลาดได้ถึงร้อยละ 20 (หากเทียบกับระบบคล้ายๆกันของญี่ปุ่นที่ทำงานด้วยอัตราความสำเร็จ 80%) โดยทีมงานหวังว่าข้อตกลงด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่จะมีการลงนามร่วมกับภาครัฐของตุรกีเร็วๆนี้จะช่วยให้ระบบมีแหล่งข้อมูลในการเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้น
นอกไปจากนี้ บริษัท HAVELSAN ยังได้มีแผนที่จะติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อป้องกันภัยหรือก่อการร้ายทางไซเบอร์อีกด้วย เช่นการป้องกันฐานข้อมูลของหน่วยบริการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่มีการใช้งานพลังงานนิวเคลียร์
หากระบบดังกล่าวสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะมีประโยชน์ต่อชีวืตและทรัพย์สินของประชาชนชาวตุรกีไม่น้อย แต่จะมีปฏิกริยาจากสาธารณชนเช่นไร หรือจะมีการท้วงติงด้านความเป็นส่วนตัวหรือไม่นั้น ก็คงต้องติดตามกันกันต่อไป
