เป็นที่คาดการณ์ว่าประชากรโลกกว่า 1,100 ล้านคนนั้นใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ และการไม่มีเอกสารเหล่านี้ทำให้พวกเขาขาดโอกาสเข้าใช้บริการหลายด้าน เช่น การติดต่อกับธนาคาร หรือการเข้าใช้สิทธิประกันสุขภาพพื้นฐานของรัฐ Simprints บริษัทสตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักรจึงคิดแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ข้อมูลทางชีวภาพเข้ามาช่วย
ตามรายงานของธนาคารโลก ประชากรที่ไม่มีตัวตนส่วนใหญ่นั้นอาศัยอยู่ในทวีปเอเซียและแอฟริกา โดย 1 ใน 3 ของจำนวนดังกล่าวนั้นเป็นเด็กที่ไม่ได้รับการลงทะเบียนเป็นประชากรอย่างเป็นทางการ Simprints พัฒนาเครื่องสแกนลายนิ้วมือแบบพกพาและแจกจ่ายพวกมันไปยังองค์กรการกุศลต่างๆทั่วโลกห ซึ่งองค์กรทั้งหลายนี้ก็จะนำเครื่องสแกนดังกล่าวไปใช้สร้างทะเบียนดิจิทัลให้กับผู้คนในชุมชนยากไร้ซึ่งไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน
หนึ่งในโครงการของ Simprints คือการร่วมมือกับ COHESU หน่วยงานการกุศลด้านสุขภาพของประเทศเคนยา โดยหน่วยงานนี้ได้นำเครื่องสแกนดังกล่าวไปเก็บข้อมูล biometrics ซึ่งจะทำให้ผู้คนในชุมชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของรัฐได้ เมื่อมีการสแกนนิ้วเกิดขึ้น อัลกอริทึมในระบบของ Simprints จะทำการสร้างเลขประจำตัวเฉพาะบุคคลซึ่งสามารถนำไปเชื่อมโยงกับทะเบียนทางการแพทย์ของบุคคลนั้นๆ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเรียกดู แก้ไข และเพิ่มข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเลตลงไปในประวัติทางการแพทย์แม้ผู้ป่วยนั้นจะไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการก็ตาม
ข้อมูล biometrics ที่ถูกเก็บซึ่งนับได้ว่าเป็นฐานข้อมูลทางชีวภาพแห่งแรกของประเทศเคนยานี้นั้นจะทำให้ผู้คนซึ่งไม่มีตัวตนอย่างเป็นทางการสามารถเข้าพบแพทย์ได้โดยไม่มีปัญหา อีกทั้งยังเป็นระบบซึ่งรวบรวมประวัติทางการแพทย์แบบดิจิทัลของผู้คนเหล่านี้ไว้ให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก การมีระบบเช่นนี้นั้นนับเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ด้อยโอกาสทางตัวตนได้เข้าถึงบริการสาธารณะ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในประเทศกำลังพัฒนา
นอกจากโครงการที่ช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีตัวตัวอย่างเป็นทางการเช่นในกรณีนี้ของประเทศเคนยาแล้ว Simprints ยังมีโครงการร่วมกับหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรอื่นๆทั่วโลก เพื่อนำเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านข้อมูล biometrics เข้าแก้ปัญหาด้านการพัฒนาอื่นๆ เช่น การเช็คชื่อในโรงเรียนเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา การเข้าเยี่ยมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ลดอัตราการเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ การใช้ระบบเพื่อให้การมอบวัคซีนเป็นไปอย่างครอบคลุมมากขึ้น และการช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงบริการของสถาบันการเงินได้ เป็นต้น