Personalization หรือการคัดเลือกเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละบุคคลนั้นเป็นเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์ในการใช้งานในสิ่งต่างๆมากมายให้ดีขึ้น เราได้เห็นการนำเทคโนโลยีนี้มาช่วยปรับเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์ให้ตรงตามความสนใจ เสนอสินค้าที่ผู้ใช้อาจชอบ หรือแนะนำภาพยนตร์เรื่องที่ตรงตามรสนิยม ในทำนองเดียวกันนี้ personalization กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานของระบบความบันเทิงบนเครื่องบินเช่นกัน
Thales Group บริษัทผู้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์และอากาศยานประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาถึงการนำระบบ personalization เข้ามาเพิ่มประสบการณ์การใช้ให้กับระบบความบันเทิงในเที่ยวบินภายใต้แพลตฟอร์มดิจิทัล InFlyt 360 ของบริษัท ซึ่งระบบที่ใช้ชื่อว่า PRESTIGE นี้จะช่วยปรับหน้า user interface และเนื้อหาทางเลือกของสื่อบันเทิงให้เป็นไปตามความชอบของผู้ใช้งาน โดยเบื้องหลังของระบบดังกล่าวคืออัลกอริทึมการคัดสรรและ machine learning ที่จะคอยเรียนรู้และปรับแต่งประสบการณ์ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน
นอกไปจากระบบความบันเทิงที่จะช่วยให้ผู้โดยสารเที่ยวบินใช้เวลาน้อยลงในการเลือกสื่อที่จะรับชมแล้ว Thales ยังได้เปิดตัวระบบ SELECT ที่ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data ช่วยให้สายการบินสามารถเลือกส่งข้อความและโฆษณาไปยังผู้โดยสารที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้ามากขึ้น เป็นต้นว่าผู้โดยสารที่เดินทางเพื่อการทำงานย่อมจะได้รับโฆษณาที่แตกต่างกับผู้โดยสารที่เลือกใช้บริการสายการบินในการท่องเที่ยวพักผ่อน โดยในขณะนี้ Thales ยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียด”ข้อมูลหลายมิติ”ที่จะนำไปใช้ในระบบดังกล่าวว่ารวมไปถึงข้อมูลชนิดใดจากแหล่งใดบ้าง
ระบบ PRESTIGE นี้จะถูกนำเข้ามาใช้บนเครื่องบิน Boeing 777X รุ่นใหม่ของสายการบิน Emirates ที่จะมีการเริ่มใช้งานในปี 2020 โดย Richard Perrot รองประธานฝ่ายนโยบายการตลาดและผลิตภัณฑ์ของ Emirates เชื่อว่า เทคโนโลยี personalization คือก้าวต่อไปของระบบความบันเทิงภายในเที่ยวบินในอนาคต