เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าเจ๋ง! จับผู้ปลอมพาสปอร์ตเข้าสนามบินได้เป็นครั้งแรก

0
https://o.aolcdn.com/images/dims?quality=100&image_uri=https%3A%2F%2Fo.aolcdn.com%2Fimages%2Fdims%3Fcrop%3D6016%252C3738%252C0%252C277%26quality%3D85%26format%3Djpg%26resize%3D1600%252C994%26image_uri%3Dhttp%253A%252F%252Fo.aolcdn.com%252Fhss%252Fstorage%252Fmidas%252Fe553b4a190d98591ac4ec11de3ae6db%252F206419180%252Fgirl-handing-over-boarding-pass-to-attendant-picture-id636570038%26client%3Da1acac3e1b3290917d92%26signature%3De664ae156da3e3413b588230c4515049e245d31f&client=amp-blogside-v2&signature=57bc161f215a2f6a419e8921500d0f065b8466d9

เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าที่ทางสนามบินต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาเริ่มทดลองใช้นั้นสามารถจับผู้ปลอมตัวได้เพียงสามวันหลังจากที่ทางท่าอากาศยานนานาชาติวอชิงตัน ดัลเลส (Washington Dulles International Airport) เริ่มใช้งาน

จากรายงานของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและการป้องกันพรมแดนสหรัฐอเมริกา (US Customs and Border Protection หรือ CBP) ชายวัย 26 จากรัฐเซาเปาลู (Sao Paulo) ประเทศบราซิล เคยใช้พาสปอร์ตฝรั่งเศสหลอกคนได้สำเร็จมาก่อนหน้านี้ จนกระทั่งเขายื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่สนามบินดัลเลสที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพเปรียบเทียบใบหน้า ระบบตรวจพบว่าใบหน้าของชายผู้นี้ไม่ตรงกับบุคคลในพาสปอร์ต เขาจึงถูกส่งตัวไปตรวจสอบ และพบว่ามีบัตรประชาชนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกซ่อนอยู่ในรองเท้าของเขา

Credit: US Customs and Border Protection

ในขณะที่ผู้สนับสนุนเรื่องความเป็นส่วนตัวกังวลว่า เทคโนโลยีนี้อาจใช้ติดตามคนและอาจทำงานผิดพลาดทำให้ประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎหมายนั้นเดือดร้อน ทางเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเองเชื่อว่า เทคโนโลยีนี้จะช่วยเสริมเรื่องความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานและยังเร่งขั้นตอนการดำเนินการสำหรับผู้เดินทาง ตามรายงานของ The Star นั้น เทคโนโลยีนี้ยังช่วยลดเวลาการรอของผู้เดินทางต่างประเทศเป็นเวลา 4 นาที ที่ท่าอากาศยานนานาชาติมิเนต้า ซานโฮเซ (the Mineta San Jose International Airport)

สนามบินดัลเลสได้ทดลองใช้เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยครั้งแรกเมื่อปี 2558 แต่พึ่งเริ่มใช้งานจริงเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นหนึ่งใน 14 สนามบินแรกที่เริ่มใช้การตรวจเปรียบเทียบใบหน้าตอนขาเข้าและขาออก และข้อมูลที่ได้รวบรวมจะช่วยให้เจ้าหน้าที่กำหนดได้ว่าจะใช้เทคโนโลยีนี้อย่างไร เจ้าหน้าที่หวังว่าจะสามารถใช้เทคโนโลยีนี้แทนที่ตั๋วโดยสารและบัตรแสดงตัวตนได้โดยสมบูรณ์เพื่อขั้นตอนด้านความปลอดภัยแบบใหม่ในอนาคต

Casey Durst ผู้อำนวยการของกรมศุลกากรกล่าวในคำแถลงว่า “เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าเป็นก้าวสำคัญสำหรับกรมศุลกากรในการปกป้องสหรัฐอเมริกาจากภัยคุกคามทั้งหลาย ผู้ก่อการร้ายและอาชญากรต่างก็ยังคงมองหาวิธีใหม่ๆ ที่จะเข้าประเทศให้ได้ รวมถึงการขโมยเอกสารฉบับจริงด้วย แต่เทคโนโลยีรู้จำใบหน้านี้จะช่วยกำจัดปัญหาที่มีผู้ใช้เอกสารตัวจริงของผู้อื่นพยายามเข้าประเทศได้อย่างแท้จริง”