สำนักข่าว Bangkok Post รายงานถึงการพัฒนาโซลูชัน E-Voting ระบบเลือกตั้งที่ทำงานบนเทคโนโลยี Blockchain โดย NECTEC ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือการลดการทุจริตและรักษาความสมบูรณ์ถูกต้องของข้อมูล
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ NECTEC ได้ทำการพัฒนาโซลูชัน Blockchain ขึ้นเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลักการทำงานที่ประกอบไปด้วยผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายควบคุมการเลือกตั้ง ผู้โหวต และแคนดิเดต
เมื่อแคนดิเดตทำการลงทะเบียนเข้ากับระบบ ฝ่ายควบคุมก็จะตรวจสอบคุณสมบัติและรับรองเข้าระบบ ส่วนผู้เลือกนั้นสามารถเข้ามาโหวตได้ผ่านช่องทางออนไลน์ผ่านทางอีเมล์ในลักษณะเดียวกับการสำรวจใน Google Docs และทำการยืนยันตัวตนผ่านกล้องในโทรศัพท์มือถือ จากนั้นผลโหวตจะถูกส่งไปยังฝ่ายควบคุมเพื่อนับคะแนนได้อย่างรวดเร็ว และผู้โหวตก็จะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าได้ลงคะแนนเสียงไปให้ใคร
NECTEC กล่าวว่าระบบดังกล่าวจะเข้ามาช่วยลดการทุจริตเลือกตั้ง และรักษาความสมบูรณ์ถูกต้องของข้อมูล อีกทั้งยังลดงานในการขนส่งบัตรเลือกตั้งไปยังศูนย์กลางการนับคะแนนได้
เป็นที่เชื่อกันว่าการกระจายศูนย์ (Decentralized) ข้อมูลและการที่ข้อมูลในระบบไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ของ Blockchain จะเข้ามาช่วยให้ระบบเลือกตั้งมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ซึ่งต่างจากระบบรวมศูนย์ที่เสี่ยงกับการถูกโจมตีและปลอมแปลงข้อมูลโดยผู้ไม่ประสงค์ดี
ดร. ชาลี วรกุลพิพัฒน์ หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (CSL) ของ NECTEC เชื่อว่าระบบดังกล่าวจะสามารถนำไปใช้ได้กับทั้งการเลือกตั้งทั่วประเทศ การเลือกตั้งท้องถิ่น การเลือกตั้งในชุมชน รวมไปถึงการเลือกตั้งในธุรกิจเช่นการเลือกผู้บริหารบอร์ดด้วย
อย่างไรก็ตาม การนำระบบดังกล่าวไปใช้ในการเลือกตั้งทั่วไปนั้นอาจยังต้องการเวลาอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพราะประชาชนต้องสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์ได้ในราคาที่เหมาะสมและระบบยืนยันตัวตนที่ใช้ได้ ซึ่งในระยะสั้น อาจนำระบบนี้ไปใช้งานในสภาพแวดล้อมปิด เช่น การใช้สิทธิ์เลือกตั้งในต่างประเทศ
นอกจากนี้ NECTEC ยังคงต้องการความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น มหาวิทยาลัย จังหวัด หรือชุมชน เพื่อนำระบบดังกล่าวไปทดสอบในการเลือกตั้งสนามเล็กๆก่อน