Microsoft เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ต้องการควบคุมการใช้เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าอย่างเหมาะสม โดยเมื่อปีที่แล้ว Brad Smith ประธานของบริษัทได้อุทธรณ์ต่อสภาคองเกรสในการจัดการเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งเขากล่าวว่า ระบบนี้สร้างความแตกแยกทางสังคมในเชิงกว้างและอาจนำไปสู่การใช้งานในทางที่ผิดได้ บริษัทถึงขั้นยุติการขายเทคโนโลยีนี้ให้กับหน่วยงานตำรวจของแคลิฟอร์เนียด้วย และตอนนี้ Microsoft ก็ยังคงรณรงค์ต่อด้วยการลบฐานข้อมูล MS Celeb ที่มีภาพใบหน้าของคนเป็นแสนคน จำนวนมากกว่า 10 ล้านภาพออกไป
เดิมทีฐานข้อมูลดังกล่าวเปิดตัวเมื่อปี 2558 ซึ่ง Microsoft บรรยายไว้ว่าเป็นฐานข้อมูลระบบรู้จำใบหน้าที่เปิดสู่สาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และใช้ฝึกระบบรู้จำใบหน้าโดยบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกและนักวิจัยทางการทหาร ผู้ที่มีรูปปรากฏอยู่นั้นไม่เคยได้รับการถามแสดงความยินยอม แต่ภาพเหล่านั้นเป็นภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียง ดังนั้นรูปภาพจึงถูกดึงมาจากอินเทอร์เน็ตภายใต้ลิขสิทธิ์ Creative Commons
อย่างไรก็ดี MS Celeb ซึ่งค้นพบโดย Adam Harvey นักวิจัยจากเบอร์ลินนั้น ก็มีภาพที่ถือว่าเป็นภาพส่วนบุคคล เช่น ภาพนักข่าวและนักเขียน ทาง Harvey ที่ทำโปรเจค Megapixels ซึ่งเผยรายละเอียดของชุดข้อมูลนั้น ได้ให้สัมภาษณ์กับ FT.com ว่า แม้ว่า MS Celeb จะถูกลบออกไป แต่เนื้อหาก็ยังคงถูกแชร์ไปทั่ว “คุณไม่อาจทำให้ชุดข้อมูลหายไปได้ เมื่อคุณโพสต์มันแล้ว คนก็ดาวน์โหลดมัน และมันก็จะยังอยู่ในฮาร์ดไดรฟ์ทั่วโลก”
การลบฐานข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ FT.com ตรวจสอบเชิงลึกถึงเทคโนโลยีรู้จำใบหน้าและบทบาทของ Microsoft ในเรื่องนั้น อย่างไรก็ตาม Microsoft อธิบายว่า “ฐานข้อมูลนั้นสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ทางวิชาการ และดูแลโดยพนักงานที่ไม่ได้ทำงานร่วมกับ Microsoft แล้ว” นี่อาจอธิบายได้ว่าทำไมบริษัทถึงไม่ค่อยออกมาเคลื่อนไหวเท่าที่ควร เพราะขั้นตอนภายในอาจไม่ได้แสดงออกเท่ากับความตั้งใจอันดีต่อสาธารณะ ทั้งนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า Microsoft ยังคงยึดมั่นในหลักกฎหมายเหมือนที่ต้องการให้คนอื่นเป็นเช่นกัน