Ransomware หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่เป็นภัยหลักต่อระบบคอมพิวเตอร์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ทำให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนตัว โรงพยาบาล องค์กรของรัฐ และแม้แต่ The Weather Channel เข้าใช้งานระบบไม่ได้ ตอนนี้เองนักวิจัยด้านความปลอดภัยก็ค้นพบว่าอุปกรณ์กล้อง DSLR ก็อาจมีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
Check Point Software Technologies ออกรายงานที่ระบุรายละเอียดถึงวิธีที่นักวิจัยสามารถติดตั้งมัลแวร์ลงในกล้อง DSLR จากทางไกลได้ Eyal Itkin นักวิจัยท่านหนึ่งพบว่าแฮ็กเกอร์สามารถติดตั้งมัลแวร์ในกล้องดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ Picture Transfer Protocol ในการติดตั้งมัลแวร์ผ่านได้ทั้งทาง Wi-Fi และ USB ในรายงานหมายเหตุไว้ว่าผู้ที่ใช้งานจุดบริการ Wi-Fi ตามสถานที่ท่องเที่ยวอาจถูกมัลแวร์นี้โจมตีได้
Itkin ได้สาธิตวิธีการที่เข้ารหัสรูปบน SD การ์ดในกล้อง Canon E0S 80D ผ่าน Wi-Fi ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเปิดไฟล์ได้ กล้องถ่ายรูปจึงเป็นเป้าหมายของบรรดาแฮ็กเกอร์ เพราะเต็มไปด้วยภาพส่วนตัวที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากจะทิ้งไป ในการโจมตีด้วยมัลแวร์ประเภทนี้ แฮ็กเกอร์มักจะเรียกเงินค่าไถ่เพื่อแลกกับรหัสเพื่อใช้ถอดรหัสเข้าถึงไฟล์เหล่านั้น ซึ่งมักจะเป็นเงินจำนวนเล็กน้อยที่คนก็ยอมจ่ายเพื่อขจัดความยากลำบากนี้
Check Point กล่าวว่าได้ค้นพบความเสี่ยงต่อกล้อง Canon นี้เมื่อเดือนมีนาคม และทั้งสองก็เริ่มหาวิธีพัฒนา patch ขึ้นมาในเดือนพฤษภาคม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Canon ออกประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานหลีกเลี่ยงการใช้งานเครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย ปิดฟังก์ชั่นเครือข่ายหากไม่ได้ใช้งานกล้องอยู่ และอัปเดตและติดตั้ง patch ความปลอดภัยตัวใหม่ลงกล้อง ทาง Itkin เผยว่า เขาได้ทดลองกับอุปกรณ์ของ Canon เท่านั้น แต่ด้วยความซับซ้อนของโปรโตคอล ก็เชื่อว่าบรรดากล้องเจ้าอื่นก็อาจสุ่มเสี่ยงด้วยเช่นกัน