เรามักจะนึกถึง AI ว่าเป็นเครื่องมือสำหรับทำงานอะไรบางอย่างโดยอัตโนมัติ แต่กลับกลายเป็นว่าเทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้เราเข้าใจตัวเราเองมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ทีมนักวิจัยจาก MIT คิดว่าพวกเขาจะทำได้ด้วยโมเดล AI ตัวใหม่นี้
ระบบที่ชื่อว่า ADEPT มีความสามารถคล้ายมนุษย์คือ สามารถเข้าใจกฎแห่งฟิสิกส์ได้โดยสัญชาตญาณ มันสามารถมองวัตถุในวิดีโอ คาดการณ์ได้ว่าวัตถุนั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไรโดยอิงตามกฎแห่งฟิสิกส์ที่ระบบรู้ และยังแสดงความประหลาดใจหากสิ่งที่มันมองอยู่นั้นเกิดอันตรธานหายไป
ทีมวิจัยเบื้องหลัง ADEPT กล่าวว่า โมเดลนี้จะช่วยให้นักวิจัยคนอื่นๆ สร้าง AI ที่ฉลาดขึ้นได้ในอนาคต อีกทั้งยังทำให้เราเข้าใจยิ่งขึ้นถึงการที่เด็กทารกเข้าใจโลกรอบตัว
Kevin A. Smith หนึ่งในนักวิจัยที่สร้าง ADEPT กล่าวว่า “พอเด็กทารกอายุ 3 เดือน ก็จะมีการรับรู้ที่ว่าวัตถุไม่ได้หายแวบไปมา และไม่สามารถทะลุผ่านกันได้ เราต้องการนำความรู้ที่สร้างการรับรู้ของเด็กทารกมาสู่ AI และเรากำลังเข้าใกล้ AI ที่ใกล้เคียงมนุษย์ในลักษณะที่โมเดลสามารถแยกแยะหลักการที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้”
ADEPT อาศัยโมดูลสองแบบ แบบแรกจะสำรวจวัตถุ กำหนดรูปร่าง การจัดวาง และความเร็ว สิ่งที่น่าสนใจของโมดูลนี้คือมันไม่ได้ลงรายละเอียด เพียงแต่ดูเรขาคณิตคร่าวๆ แทนที่จะวิเคราะห์ลงลึกทุกด้านก่อนที่มันจะไปยังขั้นตอนต่อไป ทั้งหมดนี้ก็เนื่องมาจากการออกแบบที่ให้ระบบคาดการณ์การเคลื่อนไหวของวัตถุต่างๆ ไม่ใช่แค่วัตถุที่ถูกฝึกให้เข้าใจเท่านั้น นอกจากนี้ระบบยังถูกออกแบบให้คล้ายกับทารก นั่นคือ เด็กไม่ได้สนใจถึงคุณสมบัติทางกายภาพของบางสิ่งขณะที่กำลังคิดว่าวัตถุนั้นเคลื่อนที่อย่างไร
โมดูลแบบที่สองคือระบบฟิสิกส์ที่มีความเหมือนกับซอฟต์แวร์วิดีโอเกมที่นักพัฒนาใช้สร้างฟิสิกส์เสมือนโลกจริงในเกม โดยใช้ข้อมูลจากโมดูลกราฟิกและจำลองวิธีที่วัตถุทำปฏิกิริยาตามกฎแห่งฟิสิกส์ เมื่อได้ผลตามที่คาดการณ์แล้ว ระบบจะเปรียบเทียบผลลัพธ์นั้นกับเฟรมต่อไปของวิดีโอ หากระบบสังเกตเห็นความต่างออกไปจากสิ่งที่มันคิดว่าควรจะเกิด ก็จะส่งสัญญาณออกมา ยิ่งสัญญาณแรงขึ้นเท่าไร นั่นแสดงให้เห็นว่าระบบยิ่งรู้สึกประหลาดใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นมากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ADEPT ก็คือ ระดับความประหลาดใจจากระบบนั้นตรงกับที่มนุษย์ที่ได้ชมวิดีโอชุดเดียวกันรู้สึกเช่นกัน
ทีมวิจัยต้องการศึกษาต่อไปถึงวิธีที่เด็กเล็กมองโลกและนำผลการศึกษามาประยุกต์กับโมเดล AI โดย Smith ได้เสริมว่า “เราต้องการศึกษาว่ามีอะไรอย่างอื่นอีกที่ต้องใช้พัฒนางานต่อเพื่อให้เข้าใจโลกมากขึ้นเหมือนเด็กทารก และนำสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับจิตวิทยามาสร้าง AI ให้เป็นรูปเป็นร่างยิ่งขึ้น”