DPU X จัดเสวนา China 5.0 แนะเด็กไทยรีบปรับทักษะ รองรับอาชีพใหม่ในโลกดิจิทัล

0

DPU X ร่วมกับคณะศิลปศาสตร์และวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (CITE) จัดกิจกรรม Playfessional ชอบทางไหนต้องไปให้สุด ภายใต้หัวข้อ “China 5.0 วัฒนธรรมจีนกับการพัฒนาเทคโนโลยี” โดยมี ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ไทย-จีน เป็นวิทยากร  โดยมีจุดประสงค์เพื่อชี้ให้เห็นถึงแนวทางที่ทำให้ประเทศจีนพัฒนาอย่างก้าวกระโดดทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยี รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลให้วัฒนธรรมจีนเอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยี จนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับที่ 2 ของโลก

ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ไทย-จีน และผู้เขียนหนังสือ ‘China 5.0 สีจิ้นผิง เศรษฐกิจยุคใหม่ และแผนการใหญ่ AI’ กล่าวว่า ในอนาคตผู้นำด้านเศรษฐกิจและเทคโนลียีอาจไม่ใช่เมืองตะวันตกอีกต่อไป เพราะขณะนี้เริ่มมีอิทธิพลจากประเทศจีนแทรกซึมเข้ามาเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงในจีนเกิดขึ้นเร็ว ส่งผลให้การขับเคลื่อนเทคโนโลยีเร็วตามไปด้วย ก่อนนี้ทุกคนอาจอยู่ภายใต้แพลตฟอร์มตะวันตก อาทิ Facebook Twitter เป็นต้น แต่ตอนนี้มีแพลตฟอร์มจีนเข้ามาให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น Alibaba Tencent Huawei  ตลาดเทคโนโลยีจีนเริ่มรุกอย่างรวดเร็วจนเห็นภาพการแข่งขันกับสหรัฐอย่างชัดเจน  

ดร.อาร์ม กล่าวต่อว่า จีนนอกจากมีการปรับตัวที่ดีแล้ว ยังนำวิธีคิดและวัฒนธรรมดั้งเดิมมาผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เมื่อถอดรหัสแนวคิดจะพบวัฒนธรรม 4 อย่างที่จีนนำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ ได้แก่

  1.  วัฒนธรรมความคิดแบบหยินหยาง คือ ในขาวมีดำ เช่น การใช้กลไกลตลาดควบคู่กลไกลรัฐ ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและระบบการปกครองภายใต้เอกลักษณ์จีน ทำให้มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด
  2. วัฒนธรรมการพัฒนาและเรียนรู้อยู่เสมอ ยกตัวอย่างสตาร์ทอัพในจีน ส่วนใหญ่เริ่มจากการศึกษาต้นแบบ (จากสหรัฐฯ) เกิดการ Inspired สู่การ Innovate จนเกิดเป็นนวัตกรรมของตนเอง
  3. วัฒนธรรมด้านการแข่งขัน มีการแข่งขันสูงทุกด้านทำให้เกิดการตื่นตัวอยู่เสมอ และ
  4. วัฒนธรรมด้านการทดลอง เช่น การทดลองเปิดเมืองเศรษฐกิจพิเศษ(เมืองเซินเจิ้น)จนประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีการตั้งเป้ายุทธศาสตร์อุตสาหกรรม Made In China 2025 เพื่อยกระดับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ รถยนต์พลังงานสะอาด และยังมีแผน AI 2030 เพื่อขึ้นสู่การเป็นผู้นำโลกด้าน AI 

ด้านดร.พณชิต กิตติปัญญางาม ผู้อำนวยการ DPU X กล่าวว่า ตัวอย่างความสำเร็จของจีน ทำให้คนไทยต้องหันกลับมาคิดใหม่ ทำใหม่ และหาจุดที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งสมัยก่อนวิธีคิดของคนไทยจะศึกษาและนำต้นแบบสูตรสำเร็จรูปจากประเทศมหาอำนาจมาใช้โดยไม่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับบริบทของตนเอง จึงทำให้ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก  ดังนั้น อนาคตของเด็กไทยก็น่าเป็นห่วงเช่นเดียวกันเพราะส่วนใหญ่ยังขาดการพัฒนาอย่างจริงจังเรื่อง ความรู้ ความคิด ทักษะและจิตใจ ซึ่งหากไม่เรียนรู้ให้กว้างและลึก ไม่ปรับวิธีคิด ไม่พัฒนาทักษะ หรือไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ ประเทศก็จะไปไม่รอด ดังนั้น DPU X  จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังให้เด็กคิดหาแนวทางเพื่อผ่านความยากลำบากตรงจุดนี้ไปให้ได้  ถ้าผ่านตรงนี้ได้ก็จะสามารถปรับตัวอยู่ในยุคของ AI (Artificial Intelligence) ได้

“การเชิญ ดร.อาร์ม มาเป็นวิทยากรในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้เด็กเห็นตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จจากความชอบของตัวเอง วิทยากรเรียนจบนิติศาสตร์ แต่ชอบศึกษาเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศจีน การศึกษาอย่างถ่องแท้ รู้ลึก รู้จริงนำไปสู่การสร้างคาแรคเตอร์ให้ตนเอง จนพัฒนากลายมาเป็นนักเขียนและวิทยากร สามารถเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้อื่นได้ อย่างไรก็ตามการได้เรียนรู้วิธีคิดของคนที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ได้รู้ว่าตนเองรู้จริงหรือรู้ลึกในสิ่งที่เราชอบหรือไม่ และสามารถนำความรู้นี้ไปต่อยอดทำอะไรได้บ้าง” ดร.พณชิตกล่าว