Intel ใช้ AI เก็บข้อมูลสภาพแนวปะการังแบบ real-time

0
https://o.aolcdn.com/images/dims?quality=85&image_uri=https%3A%2F%2Fs.yimg.com%2Fos%2Fcreatr-uploaded-images%2F2020-04%2Ffb956480-84aa-11ea-97ce-b695cf0789e3&client=amp-blogside-v2&signature=9916d95e04148a61615354667c066a4e78ad7385

แนวปะการังนั้นกำลังเสื่อมโทรมไปลงอย่างรวดเร็วมาก เนื่องด้วยสาเหตุต่างๆ ทั้งการจับปลาที่มากจนเกินพอดี การใช้อวนลากตามพื้นทะเล ( bottom trawling) อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และการพัฒนาชายฝั่งที่ไม่ยั่งยืน ดังนั้น เพื่อที่จะช่วยปกป้องและรักษาแนวปะการังไว้ นักวิทยาศาสตร์จึงต้องการข้อมูลมากกว่านี้ ซึ่ง Intel คิดว่ามีโซลูชันที่ช่วยได้ จึงได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์บริษัท Accenture และมูลนิธิ Sulubaaï Environmental Foundation เปิดตัว CORaiL โครงการ AI เพื่อติดตามแนวปะการังและวิเคราะห์ความยืดหยุ่นของแนวปะการังได้

ในเดือนพฤษภาคม 2562 ปีที่แล้ว ทีมงานได้ติดตั้งโครงสร้างคอนกรีตหรือ Sulu-Reef Prosthesis เพื่อช่วยค้ำปะการังที่แยกออกเป็นชิ้นๆ ตามแนวหินโสโครกแถวเกาะ Pangatalan Island ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะเข้าไปช่วยเศษปะการังที่ยังมีชีวิตให้สามารถเติบโตขึ้นและขยายใหญ่จนกลายเป็นที่อยู่อาศัยทางทะเลได้ อีกทั้ง ทีมงานยังได้วางกล้องวีดีโอใต้น้ำไว้และใช้แพลตฟอร์มวิเคราะห์วีดีโอที่มีระบบ AI ของ Accenture (Video Analytics Services Platform : VASP) เพื่อนับและคัดแยกสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแล้วส่งข้อมูลให้กับนักวิจัยได้แบบ real-time

ด้วยแพลตฟอร์มของ Accenture พร้อมกับใช้หน่วยประมวลผล Xeon ของ Intel และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อื่นๆ จึงทำให้ทีมนักวิจัยสามารถเก็บข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ได้โดยที่ไม่ต้องลงไปใต้น้ำจริงๆ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีนักประดาน้ำลงไปบันทึกวีดีโอแบบ manual แต่วิธีการนี้จะมีข้อเสียอยู่เล็กน้อย คือนักประดาน้ำมีโอกาสที่ลงไปแล้วไปรบกวนพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำได้ อีกทั้งนักวิจัยยังต้องการเห็นและวิเคราะห์ข้อมูลหลังจากที่นักประดาน้ำดำขึ้นมาแล้วด้วย

https://o.aolcdn.com/images/dims?image_uri=https%3A%2F%2Fmedia-mbst-pub-ue1.s3.amazonaws.com%2Fcreatr-uploaded-images%2F2020-04%2F2d493d30-84ab-11ea-bbff-7ff0f475161b&thumbnail=640%2C&client=49kdj93ncb8s938hkdo&signature=f00f1eba2740a1a1edb2d92d280a0367dbd5e131
A diver installs a CORaiL AI-powered video camera.

ในปีที่แล้ว ทีม CORaiL สามารถเก็บภาพได้มากราว 40,000 ภาพ ซึ่งนักวิจัยนั้นพร้อมที่จะใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อประเมินสภาพของแนวปะการังได้แล้ว ทั้งนี้ ทีมวิศวกรก็กำลังดำเนินการสร้างตัวต้นแบบของ CORaiL ในยุคถัดไปไว้แล้วด้วย โดยจะมีการใช้เวอร์ชันปรับปรุงประสิทธิภาพของ Convolutional Neural Network และทำให้แหล่งพลังงานสำรองไว้ด้วย อีกทั้งพวกเขาอาจจะเพิ่มกล้องอินฟราเรดเพื่อบันทึกวีดีโอในช่วงเวลากลางคืนด้วย นอกจากนี้ CORaiL นั้นอาจจะนำไปใช้เพื่อศึกษาอัตราการย้ายถิ่นของปลาเขตร้อนเข้าสู่น้ำที่เย็นกว่าได้ด้วย และใช้จับกุมใครก็ตามที่ล่วงละเมิดกฎระเบียบเพื่อป้องกันแนวปะการังไว้ให้ได้

Source : https://www.engadget.com/intel-ai-monitors-coral-reef-health-152247984.html