Eric Yuan – CEO ของ Zoom หนึ่งในโปรแกรมวิดีโอคอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า Zoom จะให้บริการ End-to-end encryption กับผู้ใช้ที่เสียค่าสมาชิกที่สามารถระบุตัวตนได้เท่านั้น
Eric Yuan กล่าวถึงการเข้ารหัส End-to-end ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันการดักฟังระหว่างการสื่อสารว่าจะเป็นบริการสำหรับผู้ใช้ที่สมัครสมาชิก Subscription กับ Zoom เท่านั้น เพราะสำหรับผู้ใช้ฟรี “เราไม่ต้องการจะให้[บริการ End-to-end encryption]กับพวกเขา เพราะเราอยากจะร่วมมือกับ FBI และผู้บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น ในกรณีที่มีผู้ใช้ Zoom ในจุดประสงค์ที่ไม่ดี”
ต่อมาในวันพุธ Yuan ได้ขยายความคำพูดของเขาว่าบริษัท Zoom ต้องการที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้เยาว์ และเหยื่อของ Hate crime (หมายถึงอาชญากรรมต่อกลุ่มเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ศาสนา เพศ) ซึ่งบางครั้งเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Zoom โดยหากเป็นการใช้บริการแบบฟรี Zoom จะมีเพียงข้อมูลอีเมล์ของผู้ใช้เท่านั้น
“เราวางแผนที่จะให้บริการ End-to-end encryption กับผู้ใช้ที่เราสามารถระบุตัวตนได้ ซึ่งจะช่วยลดการทำร้ายผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยง” Yuan กล่าว และเขายังยืนยันว่า Zoom มีความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน “ผมอยากจะพูดให้ชัดว่า Zoom ไม่มีการสอดแนมการประชุม เราไม่มีประตูหลังที่จะช่วยให้ผู้เข้าร่วม ที่รวมไปถึงพนักงานของ Zoom และผู้บังคับใช้กฎหมาย สามารถเข้าร่วมการประชุมได้โดยที่ผู้อื่นไม่เห็น และสิ่งนี้จะไม่เปลี่ยนไป”
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกเช่นนี้ของ CEO แห่ง Zoom ก็ได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมาย ต่อประเด็นการร่วมมือกับ”ผู้บังคับใช้กฎหมาย” ซึ่งประจวบเหมาะกับวิกฤตความไม่ไว้วางใจผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรงจากสาธารณะ จากในกรณีการเสียชีวิตของ George Floyd และผู้วิพากษ์อีกส่วนหนึ่งกังวลถึงความเป็นส่วนตัวขั้นพื้นฐานของผู้ใช้ โดยเชื่อว่าความเป็นส่วนตัวนั้นเป็นสิทธิที่ผู้บริโภคพึงมีและต้องได้รับการคุ้มครอง