ลอรีอัลร่วมกับ Gjosa บริษัทนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมจากสวิตเซอร์แลนด์ พัฒนาการสระและดูแลเส้นผมรูปแบบใหม่ที่จะช่วยประหยัดน้ำได้มากถึง 80% ในขณะเดียวกันก็ยกระดับความหรูหราและประสิทธิภาพ โดยใช้นวัตกรรมที่ผสานเทคโนโลยีการใช้น้ำพลังงานสูงเข้ากับผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษจากแบรนด์ L’Oréal Professionnel และ Kérastase ซึ่งผลิตภัณฑ์จะถูกปล่อยออกมาพร้อมกับกระแสน้ำ
ลอรีอัลและ Gjosa บริษัทนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมจากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้หลักการแยกส่วนซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในเครื่องยนต์สำหรับจรวด เพื่อกำหนดรูปแบบการไหลของน้ำ โดยหยดน้ำจะไหลออกมาปะทะกันตามทิศทางที่กำหนดและกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ขนาดของหยดน้ำนั้นเล็กลง และเร่งให้เกิดความเร็วของกระแสน้ำ ส่งผลให้กระแสน้ำที่ไหลออกมาสามารถนำมาสระและชะล้างเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้แชมพู ครีมนวด และทรีทเมนต์อื่น ๆ สามารถล้างออกได้ง่าย
L’Oréal Water Saver มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ดังนี้
- ความเร็วระดับสูงของกระแสน้ำ และช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้มากถึง 80% เมื่อเทียบกับการสระผมตามปกติ: L’Oréal Water Saver ใช้ปริมาณน้ำ 2 ลิตรต่อนาที เมื่อเทียบกับการสระผมทั่วไปที่บ้านซึ่งใช้ปริมาณน้ำถึง 8 ลิตร
- เทคโนโลยีการทำความสะอาด Cloud Cleansing: ด้วยรูปแบบการพ่นน้ำที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กระดับไมโครจะผสานเข้ากับสายน้ำ โดย L’Oréal Water Saver จะทำให้หยดน้ำมีขนาดเล็กกว่าปกติถึง 10 เท่า เพื่อให้น้ำเข้าสู่เส้นผมได้ดีกว่าเดิม และล้างออกได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
- แดชบอร์ดข้อมูลและรายงานการใช้ทรัพยากร: ข้อมูลการประหยัดน้ำและต้นทุนจะแสดงอยู่บนแดชบอร์ดที่จัดทำขึ้นมาสำหรับเจ้าของร้านซาลอน โดยมีบันทึกรวมประวัติการดูแลเส้นผมแสดงอยู่ด้วย
L’Oréal Water Saver เปิดให้สัมผัสประสบการณ์แล้วที่ร้านซาลอนของลอรีอัลในนิวยอร์กและปารีส โดยจะมีการขยายบริการนี้ออกไปในประเทศต่างๆ ในปี 2564 และ 2565 บริษัทฯ คาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะสามารถขยายบริการ L’Oréal Water Saver ได้ในซาลอนอีกหลายพันแห่งทั่วโลก ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำได้สูงสุดประมาณ 1 พันล้านแกลลอน หรือ 2.8 พันล้านลิตรต่อปี ส่วนอุปกรณ์ที่สามารถติดตั้งเพื่อการใช้งานภายในบ้านนั้น จะเปิดตัวในภายหลังจากนี้