หุ่นยนต์นั้นได้มีศักยภาพมากมายที่จะช่วยคนที่อาจจะมีข้อจำกัดต่างๆ ในการเคลื่อนไหว ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ช่วยได้คือสามารถช่วยให้ผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพใส่เสื้อผ้าได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าจะเป็นงานที่มีความท้าทายเนื่องจากจะต้องมีทั้งเรื่องความคล่องแคล่ว ความปลอดภัย และความเร็ว แต่ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ที่ห้องปฏิบัติการ CSAIL แห่ง MIT ได้พัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถสร้างสมดุลได้ในทุกๆ มุมได้ดีขึ้นกว่าเดิม
มนุษย์อาจจะสามารถเชื่อมโยงเอาความรู้เดิมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนอื่นๆ ได้โดยง่าย แต่หุ่นยนต์จะต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ตัวอย่างเช่นการแต่งตัวให้กับคนอื่นๆ ซึ่งโดยสัญชาตญาณมนุษย์จะรู้ว่าควรจะต้องถือเสื้อผ้าอย่างไร การใส่เสื้่อเข้าไปที่แขนของคนอื่น หรือการจัดวางเสื้อผ้าให้สะดวกกับการสวมใส่ เป็นต้น ซึ่งในทางกลับกัน หุ่นยนต์จะต้องถูกโปรแกรมใส่ข้อมูลเหล่านั้นเข้าไปก่อนถึงจะรู้วิธีการได้
โดยในอดีต อัลกอริทึมจะพยายามเลี่ยงไม่ให้หุ่นยนต์ไปกระทบกระเทือนกับมนุษย์มากนักเพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดี สิ่งดังกล่าวได้นำไปสู่ปัญหา “หุ่นยนต์แช่แข็ง (freezing robot)” ที่มักจะหยุดการเคลื่อนไหวไปเลยและทำให้งานดังกล่าวไม่สามารถทำได้สำเร็จ
จากปัญหาดังกล่าวในอดีต ทีม CSAIL แห่ง MIT นำโดยนักศึกษาปริญญาเอกคุณ Shen Li จึงได้พัฒนาอัลกอริทึมที่ปรับเปลี่ยนความปลอดภัยในการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ที่ทำให้มี “safe impact” ที่ต่อยอดจากการหลีกเลี่ยงการชนต่างๆ ซึ่งทำให้หุ่นยนต์สามารถสัมผัสมนุษย์แบบที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยเพื่อทำงานดังกล่าวให้สำเร็จได้ ตราบเท่าที่ผลกระทบกับมนุษย์นั้นยังคงไม่มากนัก
ตัวอย่างงานแต่งตัวแบบมาตรฐาน ตัวระบบสามารถทำงานได้แม้ว่าคนจะทำกิจกรรมอื่นๆ อยู่ อย่างเช่นตามที่เห็นในวีดีโอ คือคนอาจจะเช็คโทรศัพท์มือถืออยู่ แขนกลก็ยังสามารถเลื่อนเสื้อขึ้นไปให้ได้สำเร็จ ซึ่งหุ่นยนต์ดังกล่าวดำเนินการโดยการผสมผสานหลายๆ โมเดลเข้าด้วยกันเพื่อรองรับในหลายๆ สถานการณ์ที่แตกต่างกัน แทนที่จะขึ้นอยู่กับโมเดลเดี่ยวๆ ตามที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ “วิธีการผสมผสานนี้ได้รวมเอาทั้งเงื่อนไขความปลอดภัยของมนุษย์ การทำนายการเคลื่อนไหวของมนุษย์ และการควบคุม feedback สำหรับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างความปลอดภัยของมนุษย์กับหุ่นยนต์เข้าด้วยกัน” คุณ Zackory Erickson แห่ง Carnegie Mellon University กล่าว
แต่อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ทั้งนี้ ไอเดียนั้นน่าจะสามารถนำเอาไปใช้ในงานด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการใส่เสื้อผ้าได้อย่างแน่นอน