โครงการนี้เป็นการผสมผสานระหว่างโซลูชันการออกบัตรขั้นสูงของ Entrust และความเชี่ยวชาญอย่างยาวนานในภูมิภาคของ MK Group ในประเทศเวียดนามเพื่อเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยให้แก่บัตรประจำตัวประชาชนเวียดนาม
ประเทศเวียดนาม – Entrust ผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลการระบุตัวตน การชำระเงิน และการป้องกันข้อมูลขั้นสูง ประกาศว่าบริษัทและ MK Group Joint Stock Company (MK Group) ประเทศเวียดนาม ได้ร่วมกันเปิดตัวโครงการบัตรประจำตัวประชาชนสมาร์ทการ์ดของเวียดนาม โดย Entrust และ MK Group จะนำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงพร้อมกับการสนับสนุนภาคสนามร่วมกันในการดำเนินการโครงการนี้ในประเทศเวียดนาม เพื่อให้สามารถออกบัตรประจำตัวสมาร์ทการ์ดได้ 50 ล้านใบแก่พลเมืองโดยเริ่มมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ต้นปีนี้
ระบบการออกบัตรและโซลูชันซอฟต์แวร์ของ Entrust ร่วมกับ MK Group ประเทศเวียดนามซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการงานภาคสนามและดูแลการออกบัตรในภูมิภาคต่างๆ ในประเทศ จะช่วยให้ประชาชนเวียดนามชุดแรกกว่า 50 ล้านคนมีบัตรประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ภายใต้การควบคุมดูแลข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูง บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดใหม่นี้จะแทนที่และรวมบัตรประจำตัวประชาชนสามแบบหลังที่ทำการออกให้ประชาชน อันได้แก่ บัตรประชาชนแบบเลขประจำตัว 9 หลัก แบบเลขประจำตัว 12 หลัก และแบบบาร์โค้ด ซึ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. 2542, 2555 และ 2559 ตามลำดับ ด้วยบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดใหม่นี้จะทำให้กระบวนการต่างๆ ในการตรวจสอบตัวตนของพลเมืองเวียดนามมีความปลอดภัยและเป็นมาตรฐานมากขึ้น
คุณแองกัส แมคดูกัล รองประธานระดับภูมิภาค ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Entrust กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้รับเลือกให้เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการระดับประเทศนี้ เพื่อเปลี่ยนระบบบัตรประชาชนของเวียดนามให้เป็นระบบที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และก้าวหน้าทางดิจิทัลมากขึ้น เรามองว่าการเป็นพันธมิตรกับ MK Group เป็นก้าวย่างสำคัญสู่อนาคตของการมีระบบข้อมูลประจำตัวประชาชนที่เชื่อถือได้ในประเทศเวียดนาม”
“MK Group มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำเสนอและได้ดำเนินงานเทคโนโลยีชั้นนำนี้ สมาร์ทการ์ดที่นำเสนอสามารถรองรับแอพพลิเคชันได้หลายแบบ เช่น แอพพลิเคชันการตรวจสอบ ID และ ไบโอเมตริกซ์ตามมาตรฐานของ ICAO การเป็นพันธมิตรกับ Entrust ได้แสดงถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันของเราในการเร่งการปกป้องข้อมูลที่ปลอดภัยและการตรวจสอบตัวตนขั้นสูงในประเทศเวียดนาม ซึ่งระบบที่เรานำเสนอจะยังคงมีบทบาทสำคัญในโครงการดิจิทัลของประเทศอย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายคัง เหงียน ประธาน MK Group กล่าว “MK Group อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะตอบสนองต่อการมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระดับรัฐบาลและการรับรองตัวตนของพลเมือง ผ่านการนำเสนอโซลูชันที่แข็งแกร่งและสามารถปรับขยายขนาดได้ในโครงการนี้”
MK Smart ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ MK Group ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการของชิปบนสมาร์ทการ์ดและแอพพลิเคชันต่างๆ ตามมาตรฐาน ICAO และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของประเทศเวียดนาม บัตรประจำตัวที่ฝังชิปนี้จะเก็บข้อมูล e-ID ตามมาตรฐาน ICAO โดยมีความสามารถในการลงลายมือชื่อแบบไบโอเมตริกซ์และดิจิทัล เพื่อใช้เข้าสู่ระบบเวปพอร์ทัลภาครัฐและเอกชนหลายหลายพันรายที่ให้บริการแก่ประชาชนในปัจจุบัน รวมถึงประชาชนยังสามารถใช้บัตรสมาร์ทการ์ดนี้เพื่อรับรองตัวตนกับหน่วยงานราชการและธนาคารได้
Entrust ได้ทำการส่งมอบระบบการออกบัตรที่มีคุณภาพสูงพร้อมทั้งให้บริการคำปรึกษาในด้านต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญได้อย่างครบถ้วน และโครงการสามารถเริ่มดำเนินการออกบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด 50 ล้านใบแรกได้เรียบร้อยแล้ว
เกี่ยวกับ Entrust Corporation
Entrust เป็นผู้ให้บริการชั้นนำของโลกในการสร้างความปลอดภัยในการระบุตัวตน การชำระเงิน และการปกป้องข้อมูลขั้นสูง ณ วันนี้ผู้คนต้องการใช้งานต่างๆ ที่ราบรื่น ไร้รอยต่อและปลอดภัยมากขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะทำการข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ ซื้อสินค้า เข้าถึงบริการของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์หรือเข้าสู่ระบบเครือข่ายองค์กรต่างๆ Entrust นำเสนอโซลูชันการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดิจิทัลและการรับรองตัวตนชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานเหล่านี้ ด้วยพนักงานมากกว่า 2,500 คน มีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกและลูกค้าในกว่า 150 ประเทศ รวมถึงองค์กรระดับโลกต่างๆ ที่ไว้วางใจ Entrust ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.entrust.com
เกี่ยวกับ MK Group แห่งประเทศเวียดนาม
MK Joint Stock Company (Group) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2542 ในประเทศเวียดนาม มีประสบการณ์มากกว่า 22 ปีในการจัดหาโซลูชั่นความมั่นคงปลอดภัยดิจิทัลและผลิตภัณฑ์สมาร์ทการ์ด คติพจน์ของกลุ่ม MK คือ Smart Digital Security โดย MK Group มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้เสมอในการจัดหาและดำเนินการผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่หลากหลายสำหรับลูกค้าในภาครัฐ ภาคการเงิน – การธนาคาร องค์กรขนาดใหญ่ ภาคการขนส่งและภาคโทรคมนาคม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mk.com.vn