[รีวิว] Huawei WiFi AX3 (Quad-Core) เร้าเตอร์ WiFi 6 ดีไซน์มินิมอล ตั้งค่ารวดเร็ว สัญญาณแรงดี

0

TL;DR

  • Huawei WiFi AX3 เป็นเร้าเตอร์ดีไซน์สวย สไตล์มินิมอล สีขาว วัสดุพลาสติก น้ำหนักเบา
  • การตั้งค่าเพื่อเริ่มต้นใช้งานได้อย่างรวดเร็ว จะทำ mesh หรือต่อ WAN แล้วกระจาย Wi-Fi ก็ได้
  • ฟีเจอร์ Huawei Share สามารถนำสมาร์ตโฟนมาแตะที่ Huawei WiFi AX3 ผ่าน NFC เพื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi เล่นอินเตอร์เน็ตได้ทันที
  • มี Wi-Fi 6 แต่ราคาเข้าถึงได้ อยู่ที่ 1,990 บาทเท่านั้น

Fact Sheet

ก่อนหน้านี้ Huawei ได้เคยออกเร้าเตอร์ที่มีรูปร่างหน้าตาแบบเดียวกันมาก่อน หากแต่ตัวปีที่แล้วนั้นจะมีโปรเซสเซอร์ในระดับ Dual-Core เท่านั้น และในปี 2021 ทาง Huawei ได้มีการอัปเกรดโปรเซสเซอร์เพิ่มขึ้นให้กลายเป็น Quad-Core ที่ทำให้ประมวลผลได้เร็วขึ้นและสามารถกระจายสัญญาณได้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนสเปคอื่น ๆ จะเป็นอย่างไร ตามตารางด้านล่างนี้เลยครับ

ขนาด
225 มม. x 159.2 มม. x 39.7 มม.
น้ำหนักประมาณ 403 กรัม
สีขาว
โปรเซสเซอร์Gigahome Quad-Core 1.4 GHz CPU
อินเตอร์เฟซWAN: One 10 / 100 / 1000 Mbps Ethernet portLAN: Three 10 / 100 / 1000 Mbps Ethernet ports
ความปลอดภัยTrustZone Security, Anti-brute force algorithms, WPA3, Firewall, DMZ, PAP / CHAP, DMZ / DoS attack protection
เชื่อมต่อไร้สาย802.11ax (Wi-Fi 6)/ac/n/a 2 x 2 & 802.11ax/n/b/g 2 x 2,MU-MIMOความเร็วเชื่อมต่อไร้สายสูงสุดที่ 2976 Mbps (2.4 GHz: 574 Mbps; 5 GHz: 2402 Mbps)
คีย์ปุ่มอักษร H สำหรับการเชื่อมต่อ และ WPS ที่ทำงานร่วมกับ Independent Reset
อื่น ๆสามารถเชื่อมต่อหลากหลายอุปกรณ์ผ่าน AX3 โดยยังคงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ด้วย OFDMA Multi-User Technology ที่ช่วยส่งผ่านข้อมูลสู่อุปกรณ์ได้อย่างต่อเนื่อง (สูงสุด 4 อุปกรณ์ ที่ 2.4 GHz และสูงสุด 16 อุปกรณ์ที่ 5 GHz) 

เรียกได้ว่าทาง Huawei ออกแบบรูปลักษณ์ของ Huawei WiFi AX3 ได้ดูมินิมอล สีขาวสวยงาม บางเบาน่าใช้งาน น่าจะโดนใจผู้ใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ที่สำคัญ ด้วยราคาจับต้องได้นี้ยังมาพร้อมกับ Wi-Fi 6 Plus ที่ขยายสัญญาณออกมาได้แรง ผ่านสิ่งกีดขวางได้ไกลกว่าเดิม แถมยังมีฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกมาให้อีกด้วย ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามได้ในหัวข้อถัดไปเลยครับ

แกะกล่องลองใช้

ภายในกล่องจะมีตัวเครื่อง Huawei WiFi AX3 (Quad-Core) ปลั๊กไฟ สายแลน (ไม่ยาวมากนัก) พร้อมกับคู่มือการใช้งานแบบเร่งรัด ซึ่งตัวเครื่องจะเป็นสีขาว วัสดุเป็นพลาสติกแบบด้าน และน้ำหนักของตัวเครื่องนั้นเบามาก ๆ และขนาดไม่ได้ใหญ่เกินไปนัก ซึ่งเสาสัญญาณจะมี 4 เสาที่สามารถพับลงมาได้ด้วย ส่วนข้างตัวเครื่องเร้าเตอร์จะมีช่องระบายความร้อนที่ออกแบบมาได้แปลกตา

ส่วนด้านหลังของเครื่องเร้าเตอร์นั้นจะมีช่องเสียบปลั๊กไฟ ช่องพอร์ต WAN 1 ช่องและมีพอร์ต LAN จำนวน 3 ช่องที่สามารถใช้งานเหมือนเป็นฮับได้ด้วย (อาจจะเอาไปใช้ต่อกับสมาร์ตทีวีหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้) และข้าง ๆ กันจะเห็นเป็นปุ่ม reset และปุ่มเปิดปิดเครื่อง โดยที่ปุ่ม reset นั้นแค่กดค้างไว้ 2 วินาทีก็จะล้างสิ่งที่ตั้งค่าไว้ในเครื่องเร้าเตอร์ไปทั้งหมดได้เลย (โปรดระวัง)

หากดูที่ด้านบนของตัวเครื่องจะเห็นปุ่มด้านบนที่ดูเหมือนตัวอักษร H ปุ่มนี้เรียกว่าเป็น High Link ซึ่งทาง Huawei ออกแบบมาเผื่อว่าอยากจะตั้งค่าเร้าเตอร์ให้ mesh ต่อจากเร้าเตอร์ตัวอื่นมาได้อย่างสะดวก เพื่อทำให้สามารถขยายสัญญาณไปยังจุดอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องเดินสาย LAN เพื่อเชื่อมต่ออีกต่อไป ซึ่งเครื่องจะจับสัญญาณที่ดีสุดให้เลยอีกด้วย

ทั้งนี้ ที่ใช้งานอยู่จะไม่ได้ใช้วิธี Mesh ครับ แต่จะเป็นการต่อสาย WAN เข้าที่ตัวเร้าเตอร์เพื่อกระจายสัญญาณเลย ซึ่งการตั้งค่าเพื่อเริ่มใช้งานนั้นก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เสียบปลั๊กเข้ากับตัวเครื่อง Huawei WiFi AX3 แล้วเสียบสาย WAN เข้าไป ตอนเปิดครั้งแรก ไฟจะเป็นสีแดงก่อน

ขั้นตอนถัดไป คือการตั้งค่าให้ AX3 เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ โดยทาง Huawei จะมีแอปที่มีชื่อว่า AI Life เพื่อใช้ตั้งค่าเร้าเตอร์ Huawei WiFi AX3 ได้ทันที แต่วิธีที่ใช้ในที่นี้คือเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่ปล่อยออกมาตามค่าตั้งต้นของเครื่อง (HUAWEI_AX3 หรือตามชื่อด้านหลังเครื่อง) ซึ่งจะพาไปหน้า Setup จากนั้นก็ตั้งค่าตามหน้าจอแล้วกดยืนยัน รอสักครู่ก็ใช้งานได้เลย ซึ่งจุดที่ชอบของ Huawei WiFi AX3 คือ ไม่ว่าสัญญาณจะเป็น 2.4 GHz หรือ 5 GHz ตัวเร้าเตอร์จะปล่อยออกมาด้วยชื่อเดียวกันเลย ไม่จำเป็นจะต้องแยกชื่อหรือแยก SSID แต่อย่างใด (แต่ถ้าต้องการแบ่ง 2.4 GHz หรือ 5 GHz ก็ทำได้เช่นกัน) 

จุดที่ชอบอีกอย่างของ Huawei WiFi AX3 นี้ คือ Huawei Share ที่อำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อได้ดี โดยถ้าหากว่าเราใช้อุปกรณ์สมาร์ตโฟนที่มี NFC ก็สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ Huawei WiFi AX3 ปล่อยออกมาได้ง่าย ๆ ด้วยการเปิด NFC แล้วมาสัมผัสกับเครื่อง Wi-Fi ก็จะสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ทันทีโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องกรอกรหัสผ่านเลย เหมาะมากเวลามีแขกมาที่บ้าน หรือตามสถานที่สาธารณะที่เปิดให้บริการ Wi-Fi ฟรี โดยให้ผู้ต้องการใช้เน็ตเปิดใช้งาน NFC บนมือถือ แล้ววางบนเร้าท์เตอร์เพื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เลย 

หลังจากทดลองใช้งานมาเป็นเวลาสักพักใหญ่แล้ว Huawei WiFi AX3 (Quad-Core) นี้มีการทำงานที่เสถียรมาก ๆ เรื่องการกระจายสัญญาณ Wi-Fi นั้นก็ทำได้ดีตามที่ร่ำลือ ซึ่งสามารถทะลุกำแพงได้จริง (ประมาณ 1-2 กำแพงที่ทดลอง) โดยอย่างกรณีที่ใช้งานคือวางเครื่อง Huawei WiFi AX3 ไว้แถว ๆ หน้าบ้าน แล้วเดินไปหลังบ้าน ก็ยังได้สัญญาณ Wi-Fi อยู่ในระดับที่ดี ซึ่งลองตรวจสอบด้วย WiFiAnalyzer แล้วได้ผลตามด้านล่างนี้ จะเห็นว่าสัญญาณยังเป็นสีเขียวแปลว่ายังแรงดี

บทสรุป

Huawei WiFi AX3 นี้ถือว่าเป็นเร้าเตอร์ที่ออกแบบสวยงาม แต่ก็ยังครบเครื่องด้วยฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกมากเกินราคาจริง ๆ ซึ่งในมุมของผู้เขียนมองว่า เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการรูปลักษณ์เร้าเตอร์แบบดีไซน์มินิมอล สีขาว ๆ ที่สามารถใช้ Wi-Fi 6 ได้ สัญญาณแรงทะลุกำแพงได้จริง ภายในงบประมาณเพียงแค่ 1,990 บาทเท่านั้น 

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทาง Huawei Thailand ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์เครื่อง Huawei WiFi AX3 (Quad Core) ให้มารีวิวกันด้วย และสำหรับผู้ที่สนใจอยากเปลี่ยนเร้าเตอร์ที่บ้านเพื่อทำให้ได้สัญญาณ Wi-Fi ที่ดีขึ้น ลองดูตัวนี้เลยครับ สามารถสั่งซื้อได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/routers/ax3-quad-core/buy/