FIFA กำลังสร้างเทคโนโลยีผู้ช่วยตัดสินวีดีโอหรือ Video Assistant Referee (VAR) ขึ้นมา ซึ่งกำลังจะมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการฟุตบอล โดยในลีก Arab Cup ปีนี้ ทาง FIFA ได้เริ่มทดสอบเทคโนโลยีดังกล่าวแล้วเพื่อช่วยให้กรรมการตัดสินได้ว่าผู้เล่นทำผิดกติกาล้ำหน้า (offside) หรือไม่
อย่างที่รู้กัน กฎล้ำหน้าในวงการฟุตบอลนั้นคือการป้องกันไม่ให้ผู้เล่นฝั่งหนึ่งเข้าใกล้ประตูอีกฝั่งหนึ่งมากจนเกินไป ซึ่งถ้าหากทีมรุกได้เข้าไปอยู่ในแดนของอีกฝั่งแล้วส่งลูกให้กับทีมตัวเองที่ยืนอยู่เลยกองหลังคนสุดท้ายของอีกฝั่งไปก็จะฟาวล์ทันที โดยในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ฤดูกาลปี 2020-2021 ที่ผ่านมานี้มีถึง 32 ประตูที่เป็นโมฆะไปเนื่องจากระบบ VAR สามารถตรวจจับพบว่าเกิดฟาวล์เพราะล้ำหน้า
โดยตามข้อมูลจาก BBC ระบบตรวจจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัตินี้จะมีการจัดเก็บ 29 ข้อมูลจุด (data point) จำนวน 50 ครั้งต่อวินาทีสำหรับแต่ละผู้เล่น ซึ่งจะมีกล้องประมาณ 10-12 ตัวที่จะติดตั้งไว้ใต้หลังคาของสนามฟุตบอล โดยระบบจะใช้ข้อมูลการตรวจจับแขนขา (Limb-Tracking) ของผู้เล่นเพื่อคำนวณหาเส้นที่ล้ำหน้าขึ้นมา ณ ขณะที่ลูกบอลกำลังถูกส่งไป ซึ่งถ้าหากตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุการณ์ล้ำหน้าขึ้นแล้ว ก็จะแจ้งเตือนให้กับเจ้าหน้าที่ Replay Operator ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งได้แบบ Real Time
“เจ้าหน้าที่ Replay Operator จะมีโอกาสแสดง VAR ให้เห็นทันที” คุณ Johannes Holzmüller ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรมฟุตบอลแห่ง FIFA กล่าว “ที่ลีก FIFA Arab Cup ระบบผู้ช่วย VAR จะสามารถตรวจสอบและยืนยันข้อมูลได้ทันที” ซึ่งระบบ VAR จะสามารถบอกให้กรรมการถึงการตัดสินที่เกิดขึ้นได้
ระบบดังกล่าวจะสามารถตรวจจับการล้ำหน้าได้เร็วกว่าการใช้ระบบ VAR ในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้เกมการแข่งขันสามารถรันได้อย่างราบรื่น และถ้าหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เทคโนโลยีดังกล่าวก็อาจจะนำไปใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์อีกด้วย ซึ่ง ณ ตอนนี้ ระบบก็ได้มีการทดลองใช้ในอังกฤษ สเปน และเยอรมนีแล้ว ทั้งนี้ เคยมีแผนที่จะทดสอบในวงกว้างมากกว่านี้อีกด้วย หากแต่เพราะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ disrupt ไปเสียก่อน
ที่มา: https://www.engadget.com/fifa-offside-tech-limb-tracking-test-arab-cup-200122105.html