Nissan ประกาศล่าสุดว่าเตรียมลงทุนอีกราว 2 ล้านล้านเยน (17.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี EV และแบตเตอรี่ โดยทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของแผนใหม่ที่เรียกว่า “Ambition 2030”
โดยทาง Nissan มุ่งหวังที่จะปล่อยรถยนต์ EV แบบใหม่ออกมาอีก 15 รุ่นภายในปี 2030 ซึ่งจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ในสายการผลิตของรถยนต์ทั้งหมดถึงครึ่งหนึ่ง ณ เวลานั้นเลย
Nissan ยังกล่าวอีกว่าจะมีการพัฒนายานพาหนะไฟฟ้าออกมารวมทั้งสิ้น 23 รุ่นภายในอีก 8 ปีข้างหน้า ซึ่งจะพุ่งเป้าทำตลาดยานพาหนะไฟฟ้าต่าง ๆ (EV, e-Power PHEV/hybrids) ให้ได้ 75% ในยุโรป และ 55% ในญี่ปุ่น รวมทั้ง 40% ในสหรัฐอเมริกา และจีนภายในปี 2030
ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2021 ทาง Nissan กล่าวว่าวางแผนที่จะทำให้รถยนต์รุ่นใหม่ทุกคนนั้นจะเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2030 นั่นแปลว่า ยานพาหนะที่เป็นระบบสันดาปนั้นกำลังจะกลายเป็นรุ่นเก่าไปแล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ ทาง Nissan จะเปิดตัวรถ EV ที่มีการใช้งานแบตเตอรี่ All-Solid-State Batteries (ASSB) ภายในปี 2028 และเตรียมความพร้อมสำหรับโรงงานนำร่องในเมืองโยโกฮาม่าให้ได้อย่างเร็วที่สุดในปี 2024 ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นหวังว่าจะมีประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาในการชาร์จไฟฟ้าที่จะลดลงไป หากแต่เทคโนโลยีดังกล่าวจะยังไม่ได้ออกมาสู่ท้องตลาดในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
ตามแหล่งข่าว Bloomberg ทาง Nissan ยังต้องการที่จะลดราคาแบตเตอรี่ให้เหลือ 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อ kWh ภายในปี 2028 ซึ่งราคาแบตเตอรี่ EV นั้นจะลดลงไปถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ Nissan ยังหวังว่าจะสามารถผลิตแบตเตอรี่ขนาด 130 GWh ได้ภายในปี 2030 อีกด้วย
ที่มา: https://www.engadget.com/nissan-to-invest-18-billion-in-ev-development-101834614.html