Alchemy สตาร์ทอัพผู้พัฒนา Blockchain Infrastructure เพื่อนักพัฒนาระบบในการสร้าง Web 3 ล่าสุดระดมทุนได้อีกกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบ Series C1 เพิ่งปิดไปในช่วงสัปดาห์นี้ ทำให้ตอนนี้มีมูลค่ากิจการสูงถึง 10.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือนเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยในเรื่อง Web 3 หากอธิบายแบบเร็ว ๆ Web 3 คือส่วนที่ต่อยอดจากโลกของ Web 2.0 หรือเว็บไซต์แบบกระจายอำนาจ (Decentralized) โดยอิงกับเทคโนโลยี Blockchain ซึ่ง Alchemy ต้องการที่จะเป็นผู้พัฒนา Infrastructure สำหรับ Blockchain และ Web 3 เปรียบเสมือนกับ Amazon Web Services (AWS) ที่ ณ ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการขับเคลื่อนโลกอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก หรือพูดอีกแบบก็คือ Alchemy ต้องการจะเป็น “AWS ของวงการ Cryptocurrency” นั่นเอง
สิ่งที่น่าสนใจอย่างมากของ Alchemy คือการเติบโตของบริษัทอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2021 ปีที่แล้ว Alchemy มีมูลค่าอยู่ที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหลังจากระดมทุนในรอบ Series C ด้วยมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านั้นในเดือนเมษายน 2021 สตาร์ทอัพมีมูลค่าเพียงแค่ 505 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นหลังจากที่ระดมทุนได้ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบ Series B สำเร็จ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามูลค่าของ Alchemy นี้ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 3 เท่าหากเทียบกับเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หรือสูงพุ่งกว่า 19.8 เท่าหากเทียบกับเมษายนปีที่แล้วซึ่งเวลาผ่านไปเพียงแค่ 9 เดือนกว่า ๆ เท่านั้น
เป้าหมายของ Alchemy คือการเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับนักพัฒนาระบบที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดจาก Blockchain หรือแอปพลิเคชัน Blockchain อื่น ๆ ที่เป็นกระแสหลัก ซึ่งแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนานี้มุ่งหวังที่จะลดความซับซ้อน (Complexity) และค่าใช้จ่ายในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่ยังสามารถปรับปรุงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ผ่านเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาระบบ “ที่จำเป็น” โดย Alchemy ได้เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่สิงหาคม 2020 แล้ว ซึ่งรายได้และฐานผู้ใช้ของ Alchemy ก็เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างก้าวกระโดด
ทั้งนี้ คนทั่ว ๆ ไปส่วนใหญ่จะไม่ได้มีการปฏิสัมพันธ์กับทาง Alchemy โดยตรง เพราะว่าแพลตฟอร์ม Alchemy นั้นจะถูกใช้อยู่เบื้องหลังโดยนักพัฒนาระบบที่สร้างแอปพลิเคชันที่ต่อยอดจาก Blockchain อย่างเช่น Ethereum นั่นเอง ตัวอย่างงานที่ใช้ Alchemy อยู่เบื้องหลังนั้น เช่น NBA Top Shot, วีดีโอเกม Axie Infinity และ OpenSea ด้วย รวมทั้ง Adobe ที่ได้ประกาศว่าจะเริ่มให้บริการ NFT ผ่าน Photoshop ซึ่งก็กำลังร่วมงานกับทาง Alchemy อยู่ด้วยเช่นกัน
“ทุกคนมองหาแนวทางที่จะเข้าสู่โลกอุตสาหกรรมนี้ และสิ่งที่พวกเขารู้ได้ คือ Alchemy นั้นเป็น Backbone สำหรับทุก ๆ สิ่งเหล่านี้” ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO แห่ง Alchemy คุณ Joe Lau กล่าว “พวกเรายังคงคิดว่าสิ่งนี้เป็นโอกาสสำหรับ Web 3”
แม้ว่าโลกของ Web 3 ที่ยังเรียกได้ว่าเป็นเพียงแค่ช่วงเริ่มต้น แต่เม็ดเงินมหาศาลก็เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่บริษัทต่าง ๆ ที่พัฒนาหรือต่อยอดจากเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างมหาศาล สิ่งนี้อาจจะทำให้เร่งการเติบโตและพัฒนาการของวงการในอุตสาหกรรมเกิดใหม่นี้เร็วขึ้นไปอีก ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายที่คนอาจจะคิดว่าใช้เวลาอีกนานนั้นอาจจะไม่นานอย่างที่คิด ก็เป็นได้