Sensor Tower บริษัทด้าน Mobile Intelligence เผยรายงานเกี่ยวกับผู้ใช้มือถือที่จ่ายเงินสมัครใช้บริการแบบ Subscription ในหลาย ๆ แอปพลิเคชัน ข้อมูลที่น่าสนใจคือ App Store จากค่าย Apple มีรายได้จากโมเดลธุรกิจนี้มากกว่า Google Play แต่ Google มีแนวโน้มไล่ตามทันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
รายได้จาก Subscription ของแอปพลิเคชันที่ไม่ใช่เกมนั้น เพิ่มขึ้นจาก 13 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 เป็นมากกว่า 18 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 41% โดยรายได้หลักมาจากทาง App Store ของค่าย Apple ในขณะที่ Google Play มีรายได้ราว 5 พันล้านดอลลาร์
การสมัครสมาชิกแบบ Subscription ส่วนใหญ่มาจากฝั่งอเมริกาที่มีเม็ดเงินให้ YouTube มากกว่า 566.5 ล้านดอลลาร์ จากรายได้ที่ทำได้ทั้งหมด 1.2 พันล้านดอลลาร์
แม้ผู้ใช้ฝั่ง Apple ลงเวลาไปกับการสมัครใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ แต่ Google Play นับว่ามีความก้าวหน้าสูงสุดในแต่ละปี โดยรายได้ Apple เพิ่มขึ้น 31% ในขณะที่ Google นั้นเพิ่มขึ้นมา 78%

ในบรรดาแอปพลิเคชันที่ให้บริการแบบ Subscription นั้น YouTube จัดอยู่ในอันดับต้นของทั้ง Google Play และ App Store ส่วนบริการ Subscription ของ Google ที่ชื่อว่า Google one ก็ติดอันดับหนึ่งบน Google Play ด้วยเช่นกัน
Tinder ก็เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันตามหลัง YouTube ที่มียอดการสมัครใช้งานสูงสุด ส่วนอันดับที่สามเป็นแอปพลิเคชันเว็บตูนของญี่ปุ่นชื่อว่า Piccoma
ส่วนแอปพลิเคชันอื่น ๆ อย่าง Disney+ และ HBO Max ซึ่งเป็นสองแพลตฟอร์มความบันเทิงชั้นนำในรูปแบบ Subscription Video On Demand (SVOD) ก็ได้รับความนิยมในการให้บริการแบบ Subscription เช่นกัน อีกแอปพลิเคชันไลฟ์สตรีมมิงยอดนิยมอย่าง Twitch ก็ติดอันดับ Top 10 ด้วย

ในกลุ่มแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียนั้น มีเพียง Facebook เท่านั้นที่ติดอันดับที่ 10 ในหมวดแอปพลิเคชันที่มีผู้สมัครใช้งานสูงสุดใน Google Play ในขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ นั้นไม่ติดอยู่ในลิสต์ดังกล่าว เนื่องจากแอปเหล่านั้นพัฒนาโมเดล Subscription ของตนเอง
ตัวเลขเหล่านี้เปลี่ยนไปมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แม้ว่า Apple จะสร้างรายได้มากที่สุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Google Play กำลังไล่ตาม Apple อยู่ไม่ห่าง และด้วยอัตราเช่นนี้ก็คาดการณ์ได้ว่า ทั้ง Apple และ Google อาจได้แข่งกันอย่างดุเดือดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า