Dyson เปิดตัว Dyson Zone เครื่องกรองอากาศรูปแบบหูฟังสวมใส่เครื่องแรกจาก Dyson มาพร้อมเทคโนโลยีดักจับมลพิษได้ทั้งก๊าซ สารก่อภูมิแพ้และฝุ่นละออง และหูฟังตัดเสียงรบกวนและระบบเสียงคุณภาพสูง นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ให้ทั้งเสียงใสและอากาศบริสุทธิ์ ช่วยรับมือปัญหาการใช้ชีวิตในเมืองทั้งเรื่องคุณภาพอากาศและมลภาวะทางเสียง
แม้ในช่วง COVID-19 จะทำให้ค่าไนโตรเจนไดออกไซด์ในอากาศลดลง แต่หลังจากหลายเหมืองใหญ่ได้คลายมาตรการและผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ ก็ทำให้ค่ามลพิษกลับมาสูงเท่าเดิมหรือมากกว่าก่อนล็อกดาวน์ ไม่เพียงแค่มลพิษทางอากาศแต่ยังรวมถึงมลภาวะทางเสียงด้วย โดยมีการคาดการณ์ว่าประชากรกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกได้รับมลภาวะทางเสียงอย่างต่อเนื่องเกินกว่าที่องค์กรอนามัยโลกกำหนด
Dyson จึงได้คิดค้นหูฟังกรองอากาศ Dyson Zone ที่เรียกได้ว่าเป็น เครื่องกรองอากาศพกพา ต่างจากหน้ากากอนามัยปกติตรงที่สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ได้โดยไม่สัมผัสกับผิวหน้าด้วยคอมเพรสเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณที่ครอบหูทั้งสองข้างที่จะนำอากาศจากภายนอกเข้าผ่านตัวกรอง 2 ชั้น ทำให้อากาศบริสุทธิ์ไหลผ่านส่งมาที่บริเวณจมูกและปากเท่านั้น และทำให้เกิดการไหลย้อนกลับของอากาศจากภายนอกน้อยที่สุด
นอกจากคุณสมบัติการกรองอากาศแล้ว Dyson Zone ยังให้คุณภาพเสียงแบบเต็มอิ่มและบรรเทามลภาวะทางเสียงภายในเมืองด้วยเทคโนโลยี Active Noise Cancellation (ANC) ด้วยโหมดตัดเสียงรบกวน 3 โหมดด้วยกัน คือ
- โหมด Isolation: เป็นการตัดเสียงรบกวนระดับสูงสุด เพื่อการฟังเพลงแบบเต็มอิ่มไร้การรบกวน หรือเวลาที่ต้องการโฟกัสงานตรงหน้า
- โหมด Conversation: จะเปิดโหมดนี้อัตโนมัติเมื่อเลื่อนหน้ากากลง ปิดการทำงานของเครื่องกรองอากาศอัตโนมัติเพื่อลดการใช้แบตเตอรี
- โหมด Transparency: ออกแบบเพื่อให้ผู้สวมใส่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว โดยการเพิ่มเสียงที่มีความสำคัญ เช่น ไซเรนเสียงรถพยาบาล หรือประกาศต่าง ๆ
หูฟังกรองอากาศ Dyson Zone ได้รับการออกแบบมาให้สวมใส่สบาย กระจายน้ำหนักไปในแต่ละข้างของศีรษะมากกว่าที่จะกดน้ำหนักทั้งหมดที่ด้านบน โดยการออกแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจมากจากอานม้าที่ออกแบบให้โค้งเว้าไปตามหลังของม้าเพื่อกระจายน้ำหนักไปสู่ด้านซ้ายและขวา ซึ่งถูกใช้ในการออกแบบหมอนรองบริเวณศีรษะในส่วนที่ครอบหัว
Dyson มีแผนวางจำหน่ายหูฟังกรองอากาศ Dyson Zone อย่างเป็นทางการช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้