หลังจากที่ดีเลย์มาหลายครั้ง ล่าสุด Apple ก็กำหนดวันเริ่มต้นทำงานแบบ Hybrid Work ที่ดูจะจริงจังแล้ว โดยตามข้อมูลจาก Bloomberg และ The Verge เผยว่าบริษัทเตรียมบังคับให้พนักงานที่ทำงานในออฟฟิศ Santa Clara Valley เข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เริ่มต้น 5 กันยายน 2022 นี้เลย
โดยบริษัทคาดหวังให้พนักงานมาทำงานในทุกวันอังคารและพฤหัส และเลือกอีก 1 วันเพิ่มเติมแล้วแต่ทีมจะกำหนดกันเอง ซึ่งตามข้อมูลในจดหมายหนึ่งที่ส่งให้กับทีมงาน ทางรองประธานอาวุโสแผนกวิศวกรรมซอฟต์แวร์แห่ง Apple คุณ Craig Federighi ก็พยายามสนับสนุนให้พนักงานแชร์ความเห็นในเรื่องวันที่ 3 กับทางผู้จัดการเพื่อช่วยกันตัดสินใจได้
ก่อนหน้านี้ ทาง Apple ได้มีแผนที่จะเริ่มทำงานในลักษณะ Hybrid มาตั้งแต่มิถุนายน 2021 แล้ว ซึ่ง ณ ตอนนั้นบริษัทต้องการให้พนักงานเข้ามาทำงานในวันจันทร์ อังคาร และพฤหัส เพราะ Apple ได้ให้ค่าอย่างมากกับสิ่งที่ Tim Cook เรียกว่าเป็น “ประโยชน์ที่ไม่อาจทดแทนกันได้ในการทำงานร่วมกันแบบเผชิญหน้า” หากแต่ก็ต้องพับแผนไปเนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง รวมทั้งเรื่อง COVID-19 ด้วย
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Apple ก็ยังได้พยายามประกาศนโยบาย Hybrid Work อีกครั้ง โดยต้องการให้เริ่มต้นในวันที่ 23 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดี พนักงานได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในนโยบายดังกล่าวว่าเป็นการ “ขับเคลื่อนด้วยความกลัว” ในจดหมายเปิดผนึก ซึ่งแม้แต่ Ian Goodfellow ผู้อำนวยการแผนก Machine Learning ที่มีคนอ้างอิงถึงมากที่สุดในบริษัทก็ยังไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวอีกด้วย จึงส่งผลให้บริษัทจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนและเปิดโครงการนำร่อง (Pilot) ที่ให้พนักงานบางส่วนเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ 2 วันต่อสัปดาห์แทน
จากความพยายามล่าสุดนี้ แสดงให้เห็นว่ายังไง Apple ก็จะพยายามผลักดันให้พนักงานเข้าไปทำงานในออฟฟิศกันให้มากขึ้น “วันที่ 5 กันยายน 2022 นั้นถือว่าเป็นวันเริ่มต้นนำร่องทำงานแบบ Hybrid Work ที่ Santa Clary Valley” คุณ Fedirighi เขียน ซึ่งด้วยคำว่าเป็น Pilot นำร่อง นั่นแปลว่า Apple คงจะทดลองและเรียนรู้ไปสักพักหนึ่งในวงที่กว้างขึ้นว่าจะได้ผลอย่างไร ก่อนที่จะขยายผลไปที่ออฟฟิศอื่น ๆ ต่อไป
ที่มา: https://www.engadget.com/apple-return-to-office-september-063602820.html