ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ล่าสุด Samsung ได้ออกมารายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2022 นั้นเผยว่าอยู่ที่ 76.78 ล้านล้านวอน (54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากแต่กำไรนั้นได้ลดน้อยลงไปเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และปีต่อปี (Year-Over-Year)
โดยกำไรของ Samsung ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 10.85 ล้านล้านวอนหรือ 7.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้ร่วงลงมาราว 23% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา หรือ 31.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว
ระหว่างการรายงานผลประกอบการ Samsung เผยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะทุก ๆ แผนกกำลังเผชิญกับ”ความต้องการที่อ่อนแอลงไป” ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลกเนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความต้องการที่ลดน้อยลงนั้นเกิดขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์ระดับ Consumer และการปรับสินค้าคงคลัง (Inventory Adjustment) ส่งผลให้รายได้ในส่วนของหน่วยความจำลดน้อยลงไป ส่วนรายได้ของ System LSI ก็ลดลงเพราะว่าความต้องการโทรศัพท์และทีวีนั้นลดน้อยลง แม้ว่าส่วนของ System-on-Chips (SoCs) จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอันเนื่องจากการใช้ 5G เพิ่มขึ้นก็ตาม รวมทั้งในส่วนของธุรกิจ Visual Display ก็ได้รับผลกระทบอันเนื่องจากความต้องการที่ต่ำและค่าใช้จ่ายที่สูงเพิ่มขึ้น
ส่วนที่ดูจะเป็นแสงสว่างของ Samsung ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานั้นคือส่วนธุรกิจ Mobile eXperience (MX) และส่วนของ Networks ซึ่งทั้งสองส่วนนั้นมีกำไรที่สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งบริษัทระบุว่าความสำเร็จของ MX นั้นเป็นเพราะยอดขาย Galaxy Z Fold 4 และ Z Flip 4 ที่สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้านี้ รวมทั้งซีรีส์ Galaxy S22 ที่ยังสามารถทำยอดขายได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องเช่นเดิม
เรียกว่าความไม่แน่นอน (Uncertainty) ที่เกิดขึ้นในช่วงปีนี้ จะยังคงส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะองค์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Samsung เองก็ยังได้รับผลกระทบไปไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้น ทุกภาคส่วนจึงควรระมัดระวังการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นยาวนานกว่าที่คิดได้
ที่มา: https://www.engadget.com/samsung-decline-in-profit-weak-demand-043612722.html