เทคโนโลยี AI คือสิ่งที่ปัจจุบันมีแต่ใคร ๆ พูดถึง หรือนำเอาไปเสริมใส่ในบริการเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ดูล้ำสมัยขึ้น หากแต่ในช่วงเริ่มต้นนั้นเรียกว่าไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ซึ่งหนึ่งในองค์กรที่ยืนยันอีกเสียงว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ นั่นคือ PepsiCo
“แม้ว่าที่ผ่านมาจะดูทะเยอทะยาน แต่มันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า” คำพูดนี้เป็นของ Chief Strategy and Transformation Officer แห่ง PepsiCo คนแรก คุณ Athina Kanioura ที่กล่าวไว้ตั้งแต่กันยายน 2020 หากแต่ตอนนี้เธอกลับมีมุมมองที่ดีกับเรื่อง AI ในปี 2023
“ลองคิดถึงวิธีเริ่มต้นเกี่ยวกับ Metaverse หรือกับการใช้ AI ดูแล้ว ทันใดนั้นมันก็แตกกระจายออกมาเป็นเสี่ยง ๆ” คุณ Kanioura กล่าว “ในเรื่อง AI เราน่าจะได้เห็นว่าอะไรที่ไม่เวิร์กบ้างในครั้งแรก จากนั้นเราก็จะหมดหวัง หากแต่ฉันคิดว่าปี 2023 นี้จะเป็นปีแห่งความหวังสำหรับ AI และจะเป็นจุดที่จะมุ่งเน้นไปด้วย”
นอกจากนี้ ยังมีวิสัยทัศน์ที่ Top Down ลงมาจาก CEO แห่ง PepsiCo คุณ Ramon Laguarta และ CFO คุณ Hugh Johnston ด้วยว่าบริษัทจะมุ่งเน้น “สร้างซัพพลายเชนของพวกเราให้มีความอัตโนมัติและดิจิทัล เพื่อสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมสายการผลิตที่มีความยืดหยุ่นและความเร็วในการไปสู่ตลาด (Speed-To-Market) ที่มากขึ้น”
โดย AI ภายใน PepsiCo ภายใต้การดูแลของคุณ Kanioura นั้น จะมีกุญแจสำคัญ 3 ส่วนด้วยกันที่เรียกว่า “กรอบการทำงานของมนุษย์ (Human Framework)” ได้แก่
- การใช้ AI เพื่อเพิ่มประสบการณ์มนุษย์ (Human Experience) เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคพื้น เช่น การเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ แล้ว ใช้ AI ตรวจสอบทำนายว่าสินทรัพย์ใดถึงเวลาบำรุงรักษาแล้ว หรือการตรวจสอบคุณภาพ ความปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน เป็นต้น
- การใช้ AI เพื่อเร่งการเติบโตขององค์กรด้วยการค้นหา “พื้นที่ว่างเปล่า (Whitespace)” เมื่อคิดถึงว่าจะออกผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่อะไรดี รวมถึงการวิเคราะห์ความรู้สึกของผู้บริโภคด้วย ว่าตอนนี้กำลังสนใจอะไร อยากได้ผลิตภัณฑ์อะไรในช่วงนี้ จนทำให้เป็นที่มาของ Off The Eaten Path เป็นต้น
Credit : Off The Eaten Path
- การใช้ AI เพื่อเร่งความยั่งยืน (Sustainability) อย่างเช่น การใช้ AI เพื่อให้ชาวนาในแถบอเมริกาเหนือ ละตินอเมริกาและยุโรปนั้นมีข้อมูล Data Point สำคัญราวล้านจุดเกี่ยวกับมันฝรั่งที่ปลูกเพื่อจะได้ช่วยหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพืชผล ว่าควรต้องวางเมล็ดให้ลึกอย่างไรโดยอิงจากสภาพอากาศ หรือว่าน้ำที่ควรต้องให้ เป็นต้น
สำหรับ PepsiCo แล้ว คุณ Kanioura เน้นย้ำว่าภารกิจของ AI นั้นคือการขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในยุคถัดไป “หากแต่อยู่ภายใต้บริบทของ Human Experience” ซึ่งเชื่อว่าปี 2023 นี้จะเป็นปีที่มีการลงทุนอย่างเข้มข้นในเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น และจะเริ่มเห็นประโยชน์ในวงกว้าง ในหลาย ๆ อุตสาหกรรมมากขึ้นจริง ๆ แล้ว ซึ่งจะไม่ใช่เรื่องของอนาคตข้างหน้าไกล ๆ อีกต่อไป
“ฉันคิดว่าอุตสาหกรรมควรจะต้องตระหนักถึงสิ่งที่พวกเราต้องทำเพื่อให้ทุก ๆ คนได้ผลประโยชน์ อย่างที่คุณได้ยินการพูดคุยของบริษัทเทคโนโลยีมากมายว่ามามุ่งเน้นในเรื่องแก่น (Core) ของ AI กันดีกว่า” คุณ Kanioura กล่าว “หลายปีที่ผ่านมา พวกเราได้มีการทดสอบ Proof of Concept มากมาย เพราะ AI ในบางงานนั้นยังไม่พร้อมใช้จริง ๆ ตอนนี้ถ้าหากคิดเรื่องการนำเอา AI มาเชื่อมโยงการแผนทางธุรกิจ พวกเรากำลังทำมันในวงกว้าง (at Scale) ซึ่ง R&D จะใช้มันในวงกว้างแล้ว”
จากเรื่องราวของ PepsiCo ในบทความที่แหล่งข่าวต้นทาง VentureBeat ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ได้ทำให้เราเรียนรู้ชัดเจนว่าโลกของ AI ที่ดูเหมือนสวยงามและอนาคตอีกไกลอย่างที่หลาย ๆ คนคิดนั้น แท้จริงแล้วเส้นทางไม่ได้สวยหรูและมีการทดลองเรียนรู้ที่ล้มเหลวหรือผ่านอะไรต่อมิอะไรต่าง ๆ มามากมาย หากแต่ปีหน้านี้อาจเป็นปีที่เราน่าจะได้เห็น AI เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่าเดิม และจะได้เห็นในภาคธุรกิคและอุตสาหกรรมนั้นเริ่มมีการใช้ AI มากขึ้นในวงกว้างอย่างแน่นอน
