Linux Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรได้ออกมาเปิดตัว “Open Metaverse Foundation (OMF)” เพื่อสร้างชุดซอฟต์แวร์ Opensource และมาตรฐานต่าง ๆ สำหรับการทำ Open Metaverse
เป้าหมายขององค์กรนี้คือเพื่อสร้างพื้นที่ความร่วมมือสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้สามารถมาทำงานร่วมกันในการสร้างซอฟต์แวร์ Opensource และมาตรฐานสำหรับ Metaverse ที่ “มีความครอบคลุม (Inclusive) เป็นสากล (Global) เป็นกลางแต่ละเจ้า (Vendor-Neural) และปรับขนาดได้ (Scalable)” Executive Director แห่ง OMF คุณ Royal O’Brien กล่าว
ณ ตอนนี้ได้มีองค์กรชั้นนำและชุมชน Opensource มากมายมาร่วมเข้าเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง OMF เพื่อสนับสนุนให้วิสัยทัศน์ดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริงแล้ว อาทิ Cloud Native Computing Foundation (CNCF), Futurewei, GenXP, Hyperledger Foundation, LF Edge & Networking, Open Voice Network, Veriken ฯลฯ ซึ่งรวมกันทั้งหมดนี้จะมีองค์ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งเรื่องของ AI, Cloud, Edge Computing, Digital Assets, Transactions, Identity, Networking, Simulation, Security และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะทำให้เกิดขึ้นได้จริง
“พวกเรายังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของวิสัยทัศน์ในการสร้าง Open Metaverse และพวกเรารู้ได้ว่ามีชุมชน Opensource และสมาคมจำนวนมากที่กำลังพยายามทำชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่สำคัญให้เกิดขึ้นในปริศนานี้” คุณ O’Brien กล่าว “ในขณะที่ความท้าทายนั้นอาจจะดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย แต่ฉันรู้สึกมีพลัง จากโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับชุมชนที่กว้างขวางและเป็นสากล ที่จะนำเอาชิ้นส่วนเหล่านั้นมารวมไว้ด้วยกันเพื่อทรานส์ฟอร์มวิสัยทัศน์นั้นให้เป็นความจริงได้”
โดยภารกิจของ OMF คือการสนับสนุนชุมชนนักพัฒนา วิศวกร สถาบันการศึกษา และผู้นำทางความคิดที่จะมาแก้ไขปัญหาความท้าทายที่ยากลำบากในการสร้าง Open Metaverse ผ่านชุดซอฟต์แวร์ Opensource และ Open Specification ที่จะทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ (Portability) ทำงานร่วมกันได้ (Interoperability) สำหรับโลกที่จะเปิดอย่างสากลและขยายขนาดได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อสนับสนุนประสบการณ์การปฏิสัมพันธ์ (Interactive) และดื่มด่ำ (Immersive) ได้ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบส่วนบุคคลหรือในอุตสาหกรรมก็ตาม
คงต้องติดตามกันต่อไปว่าการกำเนิดขึ้นของ OMF นั้นจะสามารถผลักดันให้เรื่องราว Metaverse นั้นจะไปในจุดใด แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ได้มีความชัดเจนว่าจะมีอะไรออกมาในช่วงเวลาใดบ้าง ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ถึงจะได้เห็นอะไรออกมา หากแต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่อาจจะทำให้วงการ Metaverse มีความก้าวหน้าไปพร้อม ๆ กันทั้งอุตสาหกรรมได้