บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมกับ บริษัท พรีไซซ ซิสเท็ม แอนด์ โปรเจ็ค จำกัด ยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยียุคใหม่เพื่ออุตสาหกรรมพลังงานในยุคดิจิทัล โดยมีนายเควิน เฉิง ประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และนายอมร แดงโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจ บริษัท พรีไซซ ซิสเท็ม แอนด์ โปรเจ็ค จำกัด เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วยนายเดวิด ซุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพลังงานดิจิทัล บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด และนายหลิว โช่ว เฟย ประธานกลุ่มธุรกิจพลังงานดิจิทัล ประจำหัวเว่ย ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก, นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และนายภาสกร นราบริรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท พรีไซซ ซิสเท็ม แอนด์ โปรเจ็ค จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี
ทั้งนี้ หัวเว่ย ประเทศไทย และ พรีไซซ ได้ร่วมมือกันพัฒนาโซลูชันอัจริยะด้านระบบสื่อสารสำหรับติดตามการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้าในระบบจำหน่ายซึ่งช่วยติดตามการจ่ายไฟได้แบบเรียลไทม์ และยังเพิ่มความสามารถในการบำรุงรักษาระบบประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโซลูชันดังกล่าวจะนำไปประยุกต์ใช้ในการจ่ายไฟในสถานการณ์ต่างๆที่สําคัญให้กับอุตสาหกรรมทางด้านระบบไฟฟ้า ซึ่งการลงนามในครั้งนี้ยกระดับความร่วมมือระหว่างสองบริษัทและยังสะท้อนให้เห็นความชัดเจนว่าทั้งพรีไซซ และหัวเว่ย ประเทศไทย จะยังคงต่อยอดความร่วมมือกันเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมพลังงานในประเทศไทย
โดยภายใต้ความร่วมมือกันดังกล่าวทั้งสองบริษัทจะมุ่งเน้นความร่วมมือในการวิจัยและสร้างสรรค์เทคโนโลยีสมาร์ทกริดหรือระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ และโซลูชันทางด้านพลังงานอัจฉอริยะ เช่น ระบบส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้าอัจริยะ ระบบสถานีไฟฟ้าอัจริยะ รวมถึงนวัตกรรมสำหรับระบบจำหน่ายไฟฟ้าทางด้านแรงต่ำ โดยการทำงานร่วมกันแบบพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และการสร้างโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจร่วมกับพันธมิตรรายอื่นๆ นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังจะร่วมกันพัฒนาศูนย์จัดแสดงเทคโนโลยีและโซลูชันด้านพลังงานอัจฉริยะรวมถึงผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ซึ่งจะตั้งอยู่ที่บริษัท พรีไซซ ซิสเท็ม แอนด์ โปรเจ็ค จำกัด (สำนักงานใหญ่) เพื่อให้บริการกับกลุ่มลูกค้าหลักในประเทศได้ดียิ่งขึ้นพร้อมกับการสร้างสังคมสีเขียวที่มีความยั่งยืนไปพร้อมกัน
ในโอกาสนี้นายเดวิด ซุน กล่าววว่า “เป้าหมายของเราคือ การเชื่อมช่องว่างระหว่างความต้องการของลูกค้าและโซลูชันพลังงานอัจฉริยะเข้าด้วยกันและลดระยะการเชื่อมต่อระหว่างการพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ ซึ่งด้วยความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกันกับพันธมิตร เช่น พรีไซซ จะช่วยให้เราบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้อย่างแน่นอน”
ภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ดังกล่าวยังเป็นอีกก้าวสำคัญของทั้งสองฝ่าย นายกิตติ สัมฤทธิ์ กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้เราจะมุ่งกระชับความร่วมมือให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้นในการร่วมกันพัฒนาธุรกิจสมาร์ทกริดหรือระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจริยะ รวมถึงการร่วมกันพัฒนาโซลูชันนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า เพื่อสร้างธุรกิจและบริการใหม่ๆ”
นอกจากนี้ ทางหัวเว่ยยังได้นำเสนอโซลูชันการเปลี่ยนแปลงระบบดิจิทัลสำหรับพลังงานอัจฉริยะ รวมถึงความสำเร็จในตลาดโลก ซึ่งในอนาคต บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ ‘แพลตฟอร์ม+ อีโคซิสเต็ม’ ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานและเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนถึงการทำงานร่วมกับพรีไซซ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมสีเขียวอย่างยั่งยืน และตอบโจทย์พันธกิจของหัวเว่ยในการร่วมเติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชันที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อน โลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชันและบริการที่ครบวงจรของ หัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร ทุกรูปแบบและทุกขนาด
นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยพนักงานกว่า 194,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com