Stripe ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินสำหรับธุรกิจ ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ หลากหลายที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างรายรับจากโมเดลธุรกิจใหม่ ลดต้นทุน และสร้างรายรับให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเปิดตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงผลิตภัณฑ์ประจำปี Stripe Sessions ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
เมื่อธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกต้องเผชิญกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจเหล่านั้นจึงตอบสนองด้วยการมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายรับใหม่ แทนที่จะสนใจแค่เรื่องลดค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว ผลจากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้พบว่าผู้นำธุรกิจทั่วโลกระบุว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการเข้าถึงลูกค้าใหม่และการลงทุนกับฟีเจอร์ใหม่ของผลิตภัณฑ์ (51%) นอกเหนือจากการให้ความสำคัญเรื่องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย (49%) ในขณะที่ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในระดับสูง ธุรกิจไทยยังสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายรับใหม่ และสามารถนำมันมาใช้ป้องกันช่วงภาวะตกต่ำ
คุณธีร์ ฉายากุล ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท Stripe ประเทศไทย กล่าวว่า “เราเห็นว่าธุรกิจต่างๆ ไม่ได้นิ่งนอนใจหรือพึงพอใจกับการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขามองหาโอกาสอย่างจริงจังเพื่อที่จะทำให้มีรายได้และเติบโตเพิ่มมากขึ้นในช่วงปีที่เศรษฐกิจโลกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก” และเสริมอีกว่า “ธุรกิจไทยสามารถใช้ประโยชน์จากประสบการณ์จากผู้นำธุรกิจระดับโลกร่วมกับโซลูชันซอฟต์แวร์อันทรงพลังเพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถสร้างรายรับให้เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยให้พวกเขาสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ธุรกิจที่ใช้ชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินใหม่ล่าสุดของ Stripe สามารถสร้างรายรับเพิ่มสูงถึง 10.5%
Payment Element แพลตฟอร์มการชำระเงินแบบใหม่ที่ผสานรวมวิธีการชำระเงินแต่ละวิธีเข้าด้วยกันของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจมีรายรับโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น 10.5% เมื่อเทียบกับธุรกิจรูปแบบคล้ายกันที่ยังคงใช้แพลตฟอร์มการชำระเงินแบบเก่าของ Stripe สำหรับ Payment Element นั้นคือคอมโพเนนต์ UI แบบฝังและสามารถนำไปปรับแต่งให้เหมาะสมกับธุรกิจนั้นๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งมีตัวเลือกการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับผู้ซื้อมากที่สุดและรองรับวิธีการชำระเงินกว่า 100 วิธีผ่านการผสานการทำงาน Elements เพียงรายการเดียว ผู้ใช้งานสามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ผ่าน Stripe Checkout ซึ่งเป็นหน้าการชำระเงินในระบบโดยสมบูรณ์ที่ถูกสร้างไว้ล่วงหน้าและหน้าการชำระเงินที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบ (Hosted payment page) ของ Stripe ซึ่งช่วยให้ธุรกิจรับรับชำระเงินทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
ปัจจุบัน Stripe นำเสนอวิธีการชำระเงินที่มีความเหมาะสมที่สุดให้ลูกค้ากว่า 100 รายการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Stripe Checkout และ Stripe Payment Element ที่มีวิธีการชำระเงินมากกว่า 40 วิธี รวมถึง UI รับชำระเงินที่สร้างไว้ล่วงหน้า และหน้าการชำระเงินที่สามารถดำเนินการเพียงขั้นตอนเดียวซึ่งเป็นตัวที่ช่วยสร้างรายรับให้เพิ่มขึ้นได้ ในปีที่แล้วเพียงปีเดียว ธุรกิจมากกว่า 100,000 แห่งรวมถึง OpenAI (ผู้สร้าง ChatGPT), และ BigCommerce ได้อัปเกรดไปใช้ผลิตภัณฑ์รับชำระเงินแบบใหม่ประสิทธิภาพสูงของ Stripe เพื่อเพิ่มยอดขายให้มีมากขึ้น
ธุรกิจทั่วโลกกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ของ Stripe เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรับชำระเงินและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
หนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า Stripe ช่วยให้บริษัทต่างๆ ลดต้นทุนการชำระเงินและนำเสนอวิธีการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้นให้กับลูกค้า นั่นคือการประกาศขยายความร่วมมือทั่วโลกกับ Uber Technologies, Inc. เมื่อเร็วๆ นี้ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า Uber ทำการขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการชำระเงินร่วมกับ Stripe ครอบคลุมตลาดชั้นนำทั้งหมด รวมถึงออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ Stripe ยังได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ Microsoft โดยการเปิดให้ธุรกิจในอเมริกาเหนือสามารถรับชำระเงินได้โดยตรงบน Microsoft Teams เนื่องจากการสื่อสารแบบเสมือน (Virtual communication) เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ (New normal) ดังนั้น Microsoft Teams แพลตฟอร์มที่เอื้อแก่การทํางานร่วมกันจึงมอบฟีเจอร์การประชุมทางวิดีโอ การส่งเสียง การส่งข้อความ และเครื่องมือแบบฝังตัวอื่นๆ ให้กับธุรกิจกว่า 300 ล้านแห่งทั่วโลก Stripe จะส่งเสริมให้ Teams Payments มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้จัดการประชุมสามารถรับชำระเงินด้วยบัตรได้แบบเรียลไทม์ในระหว่างทำการประชุม การเรียน หรือการทำกิจกรรมต่างๆ แบบเวอร์ชวล ธุรกิจต่างๆ สามารถทำการตั้งค่าการชำระเงินล่วงหน้าแก่ผู้เข้าร่วม เพื่อที่จะกำหนดการได้รับสิทธิ์ในการเข้าเซสชันบนโปรแกรม Teams ผ่าน Stripe ได้
Stripe พร้อมนำโซลูชันที่ดีที่สุดมาสู่ประเทศไทยในระยะยาว
คุณธีร์ กล่าวอีกว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะนำฟีเจอร์ที่ดีที่สุดต่างๆ จาก Stripe มาให้บริการในประเทศไทยในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราสร้างเครือข่ายการชำระเงินและบริหารเงินทั่วโลก โครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนการค้าทั่วทั้งเศรษฐกิจดิจิทัล ขณะที่การประกาศเปิดตัวล่าสุดนี้จะน่าตื่นเต้นมาก ยังมีอีกหลายสิ่งรอเราอยู่ข้างหน้าและเราก็อดใจรอไม่ไหวที่จะแสดงให้เห็นว่าเรามีผลิตภัณฑ์อีกบ้างที่ออกมาเพื่อผู้นำด้านการชำระเงิน ผู้บริหารการเงิน และผู้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย”
