ในปัจจุบัน โอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับธุรกิจทุกขนาดในพื้นภาคเอเชียนั้นมีมากมายมหาศาล กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ได้กล่าวว่าทวีปเอเชียจะมีส่วนร่วมถึง 70% ของการเติบโตทั่วโลกในปีนี้ โดยประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนามต่างพร้อมกลับสู่ภาวะการเติบโตที่แข็งแกร่งก่อนสถานการณ์ COVID-19 ธุรกิจในทุก ๆ อุตสาหกรรมล้วนแล้วแต่ให้ค่ากับข้อมูลในการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญและมีความละเอียดอ่อน ฉะนั้นเทคโนโลยีคลาวด์ บวกกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Generative AI จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้น ที่บริษัทต่าง ๆ สามารถใช้ในการตอบสนองโอกาสทางเศรษฐกิจนี้ได้อย่างปลอดภัยและในต้นทุนที่ต่ำ ในโลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เทคโนโลยีคลาวด์จึงถือเป็นช่องทางที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการปรับตัวให้ทัน พัฒนาโครงสร้าง คิดค้นนวัตกรรม และออกแบบความปลอดภัยของระบบให้ตอบโจทย์ลูกค้าและประชาชนให้ได้มากที่สุด เตรียมพร้อมสำหรับวันนี้และวันข้างหน้า
บทความนี้จัดทำโดย ฟิล โรดริเกส หัวหน้าฝ่ายการรักษาความปลอดภัย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS)
การปรับตัวขององค์กรและการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัลอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงสถานการณ์โรคระบาด บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Zoom เห็นการปรับขนาดในจำนวนผู้ใช้จาก 10 ล้านคน พุ่งขึ้นไปเป็น 300 ล้านคน ซึ่งทำให้บริษัทต้องพัฒนาระบบความปลอดภัยและตรวจจับภัยขั้นสูงสุด รวมไปถึงระบบตอบสนองต่อเหตุการณ์เพื่อปกป้องเครือข่ายการทำงานของบริษัท บริษัทสตาร์ทอัพด้านการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เช่น Doctor Anywhere และ Halodoc เป็นหนึ่งในผู้นำการปรับใช้โมเดลธุรกิจบนคลาวด์ในภูมิภาคอาเซียน ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการทางการแพทย์และการบริการดูแลผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการปกป้องข้อมูลผู้ป่วยที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ องค์กรภาครัฐทั่วโลกยังสามารถเสนอบริการดิจิทัลแบบไร้สัมผัสเพื่อให้ความสะดวกอย่างรวดเร็วแก่ประชาชน เช่น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศอินเดีย ที่เปิดตัวแอป Co-WIN ที่สามารถรองรับผู้ใช้งานได้ถึง 10 ล้านคนต่อวัน ในการลงทะเบียนรับวัคซีน ทั้งหมดนี้สามารถทำได้บนคลาวด์ ซึ่งเปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นสำหรับการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ
ความเร็วในการคิดค้นนวัตกรรมสามารถเป็นไปได้ ด้วยระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น
การนำเทคโนโลยีมาใช้ประกอบควบคู่กับการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ช่วยให้เกิดการทดลองต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ กับองค์กรหรือธุรกิจนั้น ๆ ซึ่งองค์กรไม่สามารถกำจัดความเสี่ยงเหล่านี้ออกไปได้ทั้งหมด และในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถทำให้การพัฒนานวัตกรรมนั้นเกิดความล่าช้าจากการเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย
องค์กรสามารถหาทางออกจากปัญหานี้ได้อย่างไร คุณแอนดี แจสซี (Andy Jassy) CEO ของ Amazon และเป็นอดีต CEO ของ Amazon Web Services (AWS) ได้กล่าวไว้ว่า “การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ จะประกอบไปด้วยปัจจัยหลักสองอย่าง หนึ่งคือความสามารถในการทำการทดลองหลาย ๆ ครั้ง และสองคือไม่ต้องแบกรับความเสียหายจากการทดลองที่ล้มเหลว” วิธีการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ทันสมัยช่วยให้องค์กรขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยหลีกเลี่ยงการควบคุมที่เกินความจำเป็น ด้วยระบบความปลอดภัยแบบฝังตัวและการใช้ระบบอัตโนมัติขั้นสูง บริษัทที่สร้างสรรค์นวัตกรรมบนคลาวด์สามารถเข้าถึงการรักษาความปลอดภัยระดับโลกได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน การออกแบบและการทดสอบ ไปจนถึงการปรับใช้ การบำรุงรักษา และการพัฒนา สิ่งเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างปลอดภัยและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมด้านความปลอดภัยไปพร้อม ๆ กัน
แล้วบริการคลาวด์ สามารถสร้างความสมดุลทางด้านความปลอดภัยกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างไร โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพด้านต้นทุน?
การเข้าถึงเครื่องมือและบริการด้านความปลอดภัย
บริการคลาวด์ได้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่นบริษัท KKP Dime ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มธุรกิจทางการเงินเกียรตินาคินภัทรในประเทศไทย Siam Cement Group กลุ่มธุรกิจชั้นนำใน ASEAN ด้านการคิดค้นนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ เคมีภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ Charoen Pokphand Foods กลุ่มบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารในประเทศไทย PTT Global Chemical ธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ Papyrus Studio บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งชั้นนำในกรุงเทพฯ AWS มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าปฏิบัติตามข้อกําหนดต่าง ๆ แม้ว่าจะเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยระดับสูง เช่น องค์กรภาครัฐ สถาบันการเงิน และสถาบันด้านการดูแลสุขภาพ เป็นต้น การใช้บริการคลาวด์ช่วยให้ลูกค้าสามารถลดปริมาณงานที่ต้องจัดการด้วยตนเองลง ด้วยประโยชน์จากขนาดและความสามารถในการขยายที่เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ครอบคลุมทั่วโลก ความเชี่ยวชาญและมุ่งมั่นของผู้ให้บริการคลาวด์ต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมไปถึงระบบอัตโนมัติของมาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ
การเข้าถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยในวงกว้างนั้น ช่วยเพิ่มความเท่าเทียมเสมอภาคในการแข่งขันด้านนวัตกรรมใหม่ เป็นการลดอุปสรรคและเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และสตาร์ทอัพ ด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการเริ่มใช้คลาวด์ ทำให้องค์กรเล็ก ๆ มีโอกาสได้ใช้บริการด้านความปลอดภัยที่ทันสมัยแบบเดียวกันกับที่องค์กรขนาดใหญ่ใช้ เช่นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning: ML) ลูกค้าของเราไม่ว่าจะอุตสาหกรรมไหนหรือขนาดใดก็ตาม สามารถใช้ประโยชน์จากชุมชน AWS ในการหาความรู้และข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรี รวมไปถึงการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรของ AWS หรือ AWS Partner Network และการฝึกอบรมทักษะด้านความปลอดภัยบนคลาวด์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพความปลอดภัยขององค์กรให้ดียิ่งขึ้น
วิวัฒนาการระบบความปลอดภัยที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
ผู้ให้บริการด้านคลาวด์อย่างเช่น AWS ทุ่มเงินลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่องในด้านความปลอดภัยเพื่อประโยชน์ของลูกค้า โดย AWS ได้อัปเดตความสามารถด้านความปลอดภัยตามแนวโน้มของปัญหาความปลอดภัยทั่วโลกที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่อัปเดต ตัวอย่างเช่นการที่ AWS ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ป้องกันการโจมตีด้วยความรู้และเครื่องมือด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการมองเห็นการใช้งานทั้งหมดที่อยู่บน AWS ในแบบที่ไม่เหมือนใคร การอัปเดตและแก้ไขปรับปรุงระบบอย่างมีประสิทธิภาพ การสำรองข้อมูลอย่างราบรื่นและประหยัดต้นทุน การสร้างสภาพแวดล้อมจำลอง ทั้งหมดนี้ช่วยให้ระบบสามารถกลับมาอยู่ในสภาวะปกติพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
โมเดลคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วยการลดต้นทุน
องค์กรที่อยู่บนคลาวด์สามารถประหยัดต้นทุนด้านความปลอดภัย เพื่อนำไปลงทุนกับนวัตกรรมด้านอื่น ๆ แทนได้ การใช้คลาวด์ช่วยลดค่าใช้จ่ายคงที่และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (เช่น การจัดเตรียม การจัดการ และการดูแลศูนย์ข้อมูล) นอกจากนี้ ยังช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการบริการด้านความปลอดภัยหลายรายการ และช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถจ่ายเฉพาะในส่วนที่ใช้จริงเท่านั้น และด้วยโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ปลอดภัย รวมทั้งการเข้าถึงเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่อยู่บนคลาวด์ ลูกค้าสามารถวางใจได้กับระดับความปลอดภัยที่ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
ศักยภาพคลาวด์ที่ไร้ขีดจำกัด
ความปลอดภัยไม่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างนวัตกรรม เทคโนโลยีคลาวด์ช่วยให้องค์กรทุกขนาดในทุกอุตสาหกรรมสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูงเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ทันสมัย ด้วยวัฒนธรรมการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมและการเข้าถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมที่มีอยู่บนคลาวด์ องค์กรต่าง ๆ จึงมีความพร้อมที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ดียิ่งขึ้น เราควรตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์และกำหนดให้เป็นข้อกำหนดพื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างนวัตกรรม เพื่อความอยู่รอดและคว้าโอกาสทางเศรษฐกิจที่มีอยู่มหาศาลในภูมิภาคเอเชีย
เกี่ยวกับอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส
ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่ครอบคลุมและกว้างขวางที่สุดในโลก AWS ขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการทำงานบนคลาวด์ทุกรูปแบบ ซึ่งในปัจจุบันมีบริการอย่างเต็มรูปแบบกว่า 200 รายการ สำหรับการคำนวณ การจัดเก็บข้อมูล ฐานข้อมูล ระบบเครือข่าย การวิเคราะห์ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning: ML) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things: IoT) โทรศัพท์มือถือ การรักษาความปลอดภัย ไฮบริด เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Virtual Reality: VR) และการรวมวัตถุเสมือนเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง (Augmented Reality: AR) สื่อและการพัฒนาแอปพลิเคชัน การใช้งาน และการจัดการจาก 99 Availability Zones (AZs) ใน 31 ภูมิภาค พร้อมประกาศแผนสำหรับ Availability Zones เพิ่มเติมอีก 15 แห่ง และ AWS Regions อีก 5 แห่งในแคนาดา อิสราเอล มาเลเซีย นิวซีแลนด์ และไทย ลูกค้ากว่าล้านรายรวมไปถึงสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว องค์กรขนาดใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐ ต่างเชื่อมั่นใน AWS ในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาให้มีความคล่องตัวมากขึ้นและมีต้นทุนที่น้อยลง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS ได้ที่ aws.amazon.com
