จากงาน SEA Duocon Party 2023 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากงาน Duocon 2023 ที่ทาง Duolingo ได้ประกาศเปิดตัวหลักสูตรคณิตศาสตร์และดนตรีใหม่ที่จะเพิ่มเข้าไปภายในปีนี้ ยังมี Fun Fact ที่ทาง Duolingo ได้เปิดเผยภายในงานที่น่าสนใจมาก ๆ จากผู้เรียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA Learners) ที่ชี้ให้เห็นว่าคนในภูมิภาคนี้กำลังตื่นตัวในการเรียนบน Duolingo มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด
โดยภายในงาน คุณ Danchen Yang ผู้จัดการการเรียนรู้และหลักสูตรแห่ง Duolingo และคุณ Haina Xiang ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแห่ง Duolingo ได้เปิดเผย Fun Facts ที่น่าสนใจจากกลุ่ม SEA Learners ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้



- “57% ของ SEA Learners” นั้นกำลังเรียน “ภาษาอังกฤษ”
- การเรียนภาษาอังกฤษจากภาษาเวียดนามนั้นมีมากเป็น “อันดับสอง” รองจากการเรียนภาษาอังกฤษจากภาษาจีน
- 8% ของ SEA Learner กำลังเรียนภาษาจีน, 7% เรียนภาษาญี่ปุ่น และ 6% กำลังเรียนภาษาเกาหลี

- SEA Learners โดยเฉลี่ย เรียนบน Duolingo ประมาณ 13-15 นาที “ทุกวัน”
- ณ ตอนนี้มี SEA Learners จำนวน 735 คนแล้วมี “สถิติเรียนรู้ติดต่อกัน (Streak)” มากกว่า 2,000 วัน ในขณะที่มี SEA Learners ราว ๆ 15,000 คนแล้วที่มี Streak มากกว่า 1,000 วัน

- SEA Learners ที่เรียนภาษาอังกฤษ กำลังเรียนบน Duolingo เพื่อการศึกษาเป็นหลัก ส่วนเป้าหมายรองอื่น ๆ จะเป็นเรื่องงาน เรื่องอยากสื่อสารกับคนอื่น ๆ หรือท่องเที่ยว เป็นต้น

- ยอดผู้ใช้งานรายวัน (Daily Active Users หรือ DAU) ในภูมิภาค SEA นี้ มีมากกว่า 1 ล้านบัญชีแล้ว และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มียอด DAU เพิ่มขึ้นมากกว่า 288% เลยทีเดียว


- ที่น่าสนใจมาก ๆ คือ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา Active User ในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยนั้นมีการใช้งาน Duolingo เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเวียดนามเพิ่มขึ้น 5 เท่า อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 6 เท่า และไทยเองก็เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า แม้ว่าจะผ่านช่วงโควิดมาแล้วก็ตาม

- แรงบันดาลใจหลักสำหรับ SEA Learners หลัก ๆ มี 3 ประการคือ เพื่อสนับสนุนการศึกษาของตนเอง เพื่อสื่อสารกับผู้อื่น และเป็นการใช้เวลาในการพัฒนาตนเองเชิงรุก ที่อาจมีประโยชน์มากกว่าการเล่นโซเชียล

เรียกว่าเป็นตัวเลขและข้อมูลที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่าในแถบภูมิภาค SEA นี้กำลังตื่นตัวในการพัฒนาตนเองทางด้านภาษาเป็นอย่างมาก และไม่แน่ว่าหลังจากมีหลักสูตรคณิตศาสตร์และดนตรีเข้ามาใน Duolingo แล้ว ก็อาจจะยิ่งทวีคูณตัวเลขเหล่านี้มากขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นอีกตัวชี้วัดหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า Duolingo Method นั้นอาจจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ในโลกยุคใหม่ ก็เป็นได้