ในขณะที่ทั้งโลกหันมาให้ความสนใจกับพลังงานหมุนเวียน แต่ปัญหาคือแหล่งพลังงานอย่างลมและแสงอาทิตย์มีความไม่แน่นอน การพัฒนาแบตเตอรีชนิดใหม่ก็ใช้เวลา
จะเป็นอย่างไรหาก AI สามารถค้นหาวัสดุใหม่มาพัฒนาต่อยอดเป็นแบตเตอรีได้?
Microsoft ร่วมกับ Pacific Northwest National Laboratory (PNNL) ทดสอบใช้ AI ค้นหาวัสดุที่มีความเป็นไปได้ในการนำมาใช้เป็นแบตเตอรี จาก 32 ล้านประเภท ลงมาเหลือเพียง 18 ประเภท ภายในเวลาเพียง 80 ชั่วโมง แทนที่จะใช้เวลานับหลาย 10 ปี ด้วย Azure Quantum Elements บนคลาวด์จาก Microsoft
Microsoft กล่าวว่า วัสดุใหม่นี้เป็นวัสดุชนิดใหม่ที่ไม่มีปรากฏในธรรมชาติ แต่อาจมีศักยภาพในการช่วยลดการใช้ลิเธียมในแบตเตอรีได้มากถึง 70%
การค้นพบวัสดุดังกล่าวมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับลิเธียมได้ เช่น ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมจากการขุดลิเธียม และปัญหาขาดตลาด เพราะลิเธียมเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตสมาร์ตโฟนและแบตเตอรีรถไฟฟ้า ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการสูง
ทีมนักวิจัยจาก PNNL ยังไม่แน่ใจว่า วัสดุที่ใช้ทำแบตเตอรีจาก AI จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหรือไม่ แต่ความรวดเร็วในการค้นหาเป็นสิ่งสำคัญ
ด้าน Microsoft เชื่อว่า การค้นพบครั้งนี้นับเป็นตัวอย่างครั้งแรกในยุคการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ด้วย AI และระบบ AI อย่าง Azure Quantum Elements จะพลิกโฉมวงการการศึกษาค้นพบทางวัสดุและเคมีในอนาคต