LEARN เดินหน้าสร้างคนไทยสู่ระดับสากล ด้วยกลยุทธ์ Platform Synergy

0

รายงาน The Future of Jobs ปี 2023 จากงาน World Economic Forum เผยว่า “ภายใน 5 ปี ทักษะ 44% ของผู้คนจะไร้ความหมายและไม่มีประโยชน์อีกต่อไป” ซึ่งชี้ให้เห็นแล้วว่า ทักษะต่าง ๆ กำลังถูก Disrupt ไปในไม่ช้า

LEARN Corporation ผู้นำด้าน Lifelong Learning EdTech ในประเทศไทย ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเรียนรู้ชั้นนำอย่าง OnDemand, Skooldio จึงเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบ Lifelong Learning Solutions for Internationalization ผ่านกลยุทธ์ Platform Synergy ผสานพลังของ 3 กลุ่มธุรกิจ ครอบคลุมการเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัยให้ทัดเทียมระดับสากล

ปัจจุบัน LEARN Corporation ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจการศึกษา 3 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มธุรกิจ Out-School: พัฒนาการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนก้าวสู่อาชีพ มุ่งผลักดันให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายและเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในฝัน พร้อมบริการให้คำปรึกษาการเรียนต่อในต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม Learn Anywhere
  • กลุ่มธุรกิจ Chain School: บริหารโรงเรียนเอกชน มุ่งพัฒนาระบบการศึกษาไทยที่เน้นความสุขและความสำเร็จของผู้เรียน ปัจจุบัน LEARN เข้าไปบริหารโรงเรียนเลิร์นสาธิตพัฒนา และคาดเปิดสาขา 2 ในอนาคตอันใกล้ มุ่งสร้างโรงเรียนต้นแบบ
  • กลุ่มธุรกิจ Professional & Skills:  พัฒนาทักษะสมัยใหม่เพื่อรองรับการทำงานในโลกอนาคต
    • Skooldio เปิดหลักสูตรกลุ่ม AI ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
    • Degree Plus แพลตฟอร์ม Lifelong Learning Operating System ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คุณสาธร อุพันวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยเทรนด์เทคโนโลยีการศึกษาจะเป็นไปใน 2 แนวทางหลัก คือ 

  1. Blended Learning คือ การเรียนรู้แบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างไหลลื่น
  2. Personalized Learning คือ การเรียนรู้ที่มีความเป็นเฉพาะบุคคล

จากแนวโน้มดังกล่าว LEARN จึงตั้งเป้าเดินหน้าสู่การเป็น ‘Lifelong Learning Solutions for Internationalization’ มุ่งเน้นการเป็นโซลูชันการเรียนรู้ที่จะตอบโจทย์ผู้เรียนในทุกช่วงชีวิต เพื่อเป้าหมายการพัฒนาทักษะของคนไทยสู่การเป็นพลเมืองโลก (Global Citizen) ได้อย่างแท้จริง 

โดยจะมุ่งเน้นการทำงานผ่าน 2 กลยุทธ์ คือ 

  • Platform Synergy มุ่งเน้นการบริหารงานที่ผสานความร่วมมือจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ทั้งการบริหารงาน การพัฒนาคอนเทนต์ความรู้ การบริการ เทคโนโลยี ตลอดจนการแชร์องค์ความรู้ร่วมกัน  พร้อมกับดึงจุดเด่นของแต่ละธุรกิจเข้ามาผสานเป็นหนึ่งเดียว เพื่อพัฒนาเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ผู้เรียนทุกช่วงอายุ
  • High Demand & Impactful มุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตรต่อยอดทักษะหรือองค์ความรู้ที่กำลังเป็นที่ต้องการสูง ตอบโจทย์ดีมานด์ในตลาดและเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาคนในสังคม อีกทั้งการทำงานภายในต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วทั้งในเชิงการพัฒนาคอนเทนต์และบริการ รวมถึงการปรับรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อให้เข้าถึงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้เรียนทุกช่วงอายุ

สำหรับภาพรวมธุรกิจของ LEARN คุณสาธร เผยถึงแนวโน้มการเติบโตในปี 2024 โดยคาดว่าภาพรวมธุรกิจจะโตอย่างต่อเนื่อง 

  • กลุ่มธุรกิจ Out – School จะยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้สูงสุดจากรายได้ทั้งหมด
  • กลุ่มธุรกิจ Chain School ที่เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่จะมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยผลตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มครอบครัวยุคใหม่ที่ชื่นชอบจุดเด่นของหลักสูตรแบบ Personalized Learning และ International Program