ล่าสุด Google DeepMind ได้กลับเข้าสู่สนามแข่งของโมเดล AI แบบ Open Source อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “Gemma” โมเดล Open Source ที่สร้างจากงานวิจัยพัฒนาเดียวกับที่ใช้สร้างโมเดล Gemini ซึ่งเผยด้วยว่ามีประสิทธิภาพที่ดีกว่า Llama 2 ของ Meta แล้ว
โดย Gemma จะมี 2 ขนาดที่ปล่อยออกมา คือขนาด 2 พันล้านพารามิเตอร์ (Gemma 2B) กับ 7 พันล้านพารามิเตอร์ (Gemma 7B) ซึ่งแต่ละขนาดจะมีทั้งโมเดลที่เป็นลักษณะ Pre-trained กับที่เป็นผ่านการเทรนมาบางส่วนแล้ว (Instruction-tuned) ให้เลือกใช้งานได้
และตามข้อมูลจากบล็อกโพส ทาง Google DeepMind กล่าวว่าโมเดลที่ปล่อยออกมานี้จะสามารถใช้งานได้ในเชิงพาณิชย์อีกด้วย ซึ่งจะมาพร้อมกับเครื่องมือใหม่ที่ชื่อ Responsible Generative AI toolkit
ในแง่ของประสิทธิภาพนั้น Google ชี้ให้เห็นว่า Gemma สามารถเอาชนะโมเดลที่ใหญ่กว่าอย่าง Llama 2 ขนาด 13B ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดทั้งเรื่องการทดสอบประสิทธิภาพ ข้อมูล Data Set ที่ใช้ และการทำ Data Modeling ได้ที่นี่
หากใครเริ่มอยากลองใช้ Gemma ทาง Google ได้ปล่อยเครื่องมือสำหรับการทำอนุมาน (Inference) และการปรับแต่งโดยมีการกำกับดูแล (Supervised Fine-Tuning หรือ SFT) ในเฟรมเวิร์กยอดนิยมต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Jax, PyTorch หรือ TensorFlow รวมทั้ง Keras 3.0 อีกทั้งยังมี Colab และ Kaggle Notebook ให้ใช้งานได้เลยอีกด้วย
ที่สำคัญ Gemma ตอนนี้ได้เข้าไปอยู่บน Hugging Face, MaxText และ NVIDIA NeMo เป็นแล้วด้วย รวมทั้งโมเดล Gemma ทั้งเวอร์ชัน Pre-trained กับ Instruction-tuned นั้นสามารถนำไปรันบนแล็ปท็อป เวิร์กสเตชัน หรือว่าบน Google Cloud ที่สามารถนำไป Deploy บน Vertex AI หรือ Google Kubernetes Engine (GKE) ก็ได้แล้วเช่นกัน
ผู้ที่สนใจสามารถทดลองใช้ Gemma ได้ฟรีผ่าน Kaggle ในเวอร์ชัน Free Tier หรือใช้งานบน Google Cloud ครั้งแรกเพื่อรับเครดิตฟรี 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือถ้าหากเป็นนักวิจัยก็สามารถยื่นสมัครรับเครดิต Google Cloud ได้สูงสุดถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อเร่งนวัตกรรมให้เกิดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม
ดังนั้น ถนัดใช้ระบบนิเวศเจ้าไหนอยู่ก็สามารถเลือก Gemma ไปเริ่มต้นใช้งานได้แล้ววันนี้ทันที