พ่อแม่ที่เปิดข้อมูลโซเชียลมีเดียเป็นสาธารณะพึงระวัง! ล่าสุด มีกรณีคุณพ่อเกือบตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่โทรมาอ้างว่า จับตัวลูกสาวเป็นตัวประกัน พร้อมใช้ AI ปลอมแปลงเสียงของลูกสาว หลอกให้เหยื่อโอนค่าไถ่ทันที
เหตุดังกล่าวเกิดที่อเมริกา โดยคนร้ายได้โทรไปหา Kevin David เจ้าของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ชื่อว่า The Appliance Loft
แม้ Kevin จะรู้ดีว่า ใคร ๆ ก็ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ แต่ตัวเขาเองก็ “เกือบ” ตกเป็นเหยื่อด้วยอีกราย เพราะเล่ห์กลใหม่ที่คนร้ายใช้นั้นขู่ทำให้เขาหวาดกลัวและหลงเชื่อไปในทันที
ทันทีที่เขารับโทรศัพท์ กลับได้ยินเสียงลูกสาวของเขา ซึ่งพูดมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พ่อคะ นี่หนูเอง Brooke” แต่หลังจากนั้นเสียงนั้นก็พูดไป ร้องไห้ไป แล้วฟังไม่รู้เรื่อง
จากนั้นก็เป็นผู้ชายอีกคนพูดสาย แล้วบอกว่า “เราจับตัว Brooke ไว้ ตอนนี้เธออยู่ที่ท้ายรถ” ถ้าอยากได้ตัวลูกคืน ต้องโอนเงินค่าไถ่มา 5,000 ดอลลาร์ ไม่อย่างนั้นเขาจะทำร้ายเธอ
แต่โชคดีที่เพื่อนร่วมงานของ Kevin ได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น จึงโทรหา Brooke ในทันที และทราบว่า เธอยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนและปลอดภัยดี
สิ่งที่น่ากลัวคือ คนร้ายคนนั้นมีทั้งเสียงของลูกสาวเขา รู้จักทั้งชื่อลูกและชื่อของ Kevin เอง
ด้าน FBI ออกเตือนถึงภัยหลอกลักพาตัว เหตุเพราะโพสต์ต่าง ๆ เกี่ยวกับลูกหลานบนโซเชียลมีเดียที่เปิดเป็นสาธารณะ และการโทรหลอกลวงในลักษณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มพ่อแม่ที่มีฐานะ
ครั้งนี้ถือว่ายังโชคดีที่คนรอบข้าง Kevin ไหวตัวทัน ทำให้ Kevin ไม่ตกเป็นเหยื่อโดนหลอกสูญเงิน
ดังนั้น คำแนะนำจากเครือข่ายเฝ้าระวังกลุ่มหลอกลวงของ AARP คือ หากเจอกับกรณีการโทรหลอกลวงดังกล่าว ให้ตั้งสติ และคอยจับผิดดูว่าเป็นสแกมหลอกลวง เช่น ให้โอนเงินเป็นบัตร Gift card หรือให้ไปที่เครื่อง Crypto ATM รวมถึงให้ติดต่อหาญาติโดยทันที
วิธีการป้องกันคือ หลีกเลี่ยงการโพสต์ข้อมูลแผนการเดินทางหรือที่อยู่บนออนไลน์ พร้อมกับมีรหัสผ่านเฉพาะกิจที่รู้กันเองในครอบครัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจริง