Veeam ตอกย้ำ องค์กรต้องให้ความสำคัญกับ Data Resilience 

0

จากเซสชันแถลงข่าวในงาน Veeam On Tour Bangkok 2024 ที่ผ่านมา ทาง Veeam ผู้นำในด้าน Data Resilience ไม่ว่าจะเป็นการสำรองข้อมูล (Backup) เรียกคืน (Recovery) ได้ชี้ให้เห็นว่าเรื่อง “Data Resilience” หรือความยืดหยุ่นในข้อมูลองค์กรนั้นคือสิ่งที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญเช่นกัน

โดยภายในเซสชันทาง Veeam ได้อธิบายถึง Data Resilience นั้นคืออะไร ความสำคัญของ Data Resilience ที่ต้องมี รวมทั้งเส้นทางของ Veeam ประเทศไทยที่เดินทางมาถึงปีที่ 10 และโอกาสที่ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก รวมทั้งมุมมองต่อเทคโนโลยี Generative AI ติดตามได้ในบทความนี้

ทุกวันนี้ โลกที่เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบนั้นกำลังขับเคลื่อนด้วย “ข้อมูล” ดังที่เห็นในหลากหลายสถานการณ์ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ว่าเมื่อระบบดิจิทัลมีปัญหาและไม่มีข้อมูล ก็ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจสามารถหยุดชะงักลงได้ในวงกว้าง เช่น สนามบินอินโดนีเซียที่ติดขัดเนื่องจากระบบภาครัฐมีปัญหา หรืออย่างกรณีของ Crowdstrike ที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักขององค์กรที่ใช้งานไปทั่วโลก

Veeam ในฐานะผู้นำด้าน Data Resilience ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการสนับสนุนให้ทุกบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง จึงมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบที่พร้อมสนับสนุนการสำรองข้อมูลและเรียกคืนได้อย่างรวดเร็วในแทบทุกเทคโนโลยีที่ใช้งาน ซึ่งกว่า 74% ขององค์กรระดับโลก 2,000 แห่ง ล้วนเลือกใช้งาน Veeam 

คุณ Beni Sia, Senior Vice President & General Manager Asia Pacific and Japan

“โลกทุกวันขับเคลื่อนด้วยข้อมูล แทบทั้งโลกต้องหยุดหมดถ้าไม่มีข้อมูล” คุณ Beni Sia, Senior Vice President & General Manager Asia Pacific and Japan กล่าว

ภายในเซสชัน คุณ Dave Russell, Senior Vice President, Head of Strategy, Office of CTO แห่ง Veeam ได้อธิบาย 5 หมวดหมู่ของ Data Resilience เพื่อให้ข้อมูลองค์กรมีความปลอดภัย ปกป้อง และพร้อมใช้งานได้เสมอนั้นประกอบไปด้วยหมวดหมู่ดังต่อไปนี้

  • Data Backup การสำรองข้อมูลและ Data Protection ในจากทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีอะไรก็ตาม เช่น Microsoft 365, Kubernetes, Multi-Cloud 
  • Data Recovery การเรียกคืนข้อมูลที่สำรองไว้ได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกคืนเป็นไฟล์หรือว่าเรียกคืนทั้ง Data Center
  • Data Freedom ข้อมูลที่สามารถทำได้ในทุกโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในวันนี้หรือในอนาคต ที่สามารถโยกย้ายไปมาได้อย่างยืดหยุ่น
  • Data Security ความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่ต้องทำให้ความซับซ้อนน้อยลงและมีความปลอดภัยพร้อมทางเลือกได้มากขึ้น และสามารถปกป้องได้ในทุกขั้นตอนและทุกเทคโนโลยีที่ใช้งาน
  • Data Intelligence การใช้ประโยชน์จากข้อมูล รวมทั้งศักยภาพของเทคโนโลยี AI ในการดูแลรักษาและนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจสูงสุด
คุณ Dave Russell, Senior Vice President, Head of Strategy, Office of CTO แห่ง Veeam

“ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ หรือเทคโนโลยีอะไร Veeam ต้องการทำให้สามารถทำงานได้ในทุกระบบ หลากหลายรูปแบบ” คุณ Dave Russell, Senior Vice President, Head of Strategy, Office of CTO แห่ง Veeam กล่าว

คุณเจษฎา ภาสวรวิทย์ ผู้จัดการอาวุโส ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ แห่ง Veeam Software ได้เปิดเผยว่าตั้งแต่ Veeam ได้เข้ามาสู่ประเทศไทยและเริ่มมีพนักงานไทยคนแรกตั้งแต่ปี 2014 นับจนถึงปัจจุบันคือ 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีพาร์ตเนอร์มากมายมาร่วมทำงาน และมีลูกค้ามากกว่า 2,300 แห่งเป็นที่เรียบร้อย โดยมีเจ้าใหญ่ที่อนุญาตนำมาแสดงเป็น Customer Success Stories ได้ ได้แก่ KBTG, EGAT, ทิพยประกันภัย และ TRC

โดยหลังจาก COVID-19 ได้แพร่ระบาดเกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้องค์กรหันมาใช้งาน Veeam มากยิ่งขึ้น จึงทำให้ทุกวันนี้ Veeam ประเทศไทยมีพนักงาน 24 ท่าน ที่พร้อมสนับสนุนและยังมองว่าตลาดในไทยแม้ว่าจะมีความท้าทายในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ก็ยังเชื่อว่าไทยยังคงเป็นตลาดที่เติบโตได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน

คุณเจษฎา ภาสวรวิทย์ ผู้จัดการอาวุโส ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ แห่ง Veeam Software

“เศรษฐกิจประเทศไทยมีความท้าทายอยู่พอสมควร แต่เนื่องจากเรามีพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่ง เวลาลูกค้าต้องการโซลูชันสำรองข้อมูล ก็มักจะนึกถึง Veeam” คุณเจษฎา ภาสวรวิทย์ ผู้จัดการอาวุโส ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ แห่ง Veeam Software กล่าว

ด้วยวิวัฒนาการของ Generative AI ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดและเริ่มเห็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในระดับองค์กรมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงได้มีโอกาสสอบถามทาง Veeam ว่ามีความท้าทายในเรื่อง Generative AI อย่างไรบ้างไหม 

และคำตอบที่ได้จากคุณ Dave Russell นั้นคือมุมมองในเชิงบวก ว่า Generative AI นั้นจะช่วยสนับสนุนให้ Veeam สามารถทำงานได้เร็วขึ้นในหลาย ๆ ทาง

“Generative AI สามารถนำมาใช้ได้หลายทาง เช่น การทำผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นอีก แม้ว่า Veeam จะนำไป Deploy ได้ง่าย แต่ก็ยังอยากทำให้ง่ายที่สุดและง่ายกว่าเดิม หรือการใช้ AI/ML ตรวจจับ Anomaly หรือว่าสิ่งที่กำลัง Compromise ให้ได้ก่อน หรือว่าปกป้อง LLM ให้ได้เพื่อไม่ให้ถูกโจมตีโดยตรง” คุณ Dave Russell กล่าว “เรามุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะนำมาสร้างสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม”

เพราะโลกดิจิทัลขับเคลื่อนด้วยข้อมูล นอกจากการใช้ประโยชน์จากข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพแล้ว การปกป้องข้อมูลให้มีความปลอดภัย ยืดหยุ่น พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับทุกองค์กรที่ควรจะต้องพิจารณา ซึ่งอย่างน้อยควรจะต้องมีการพิจารณากระบวนการ Backup & Recovery ให้พร้อมใช้งานได้เสมอเป็นขั้นต่ำ และถ้าหากต้องการต่อยอดที่สนับสนุนได้ครบ 5 แกนแล้ว ก็อาจจะลองพิจารณาเลือกใช้ Veeam ภายในองค์กร ที่จะช่วยสนับสนุนเรื่อง Data Resilience ให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน