นักเศรษฐศาสตร์ Daron Acemoglu จากสถาบัน MIT และ Pascual Restrepo จากมหาวิทยาลัยบอสตันเผยผลงานวิจัยชิ้นใหม่ ชี้ทุกๆหุ่นยนต์หนึ่งตัวที่เพิ่มขึ้นมาต่อแรงงานหนึ่งพันคน จะลดการจ้างงานราว 0.18-0.34% ซึ่งคิดเป็นงานประมาณ 6 ตำแหน่ง และลดค่าจ้างลง 0.25-0.5% ด้วย
งานวิจัย Robots and Jobs: Evidence from US Labor Markets นี้ ถือเป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ศึกษาถึงผลกระทบในแง่ลบจากการใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมจริงจังจากข้อมูลทางสถิติ หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีงานศึกษาเชิงคาดการณ์จากนักเศรษฐศาสตร์หลายชิ้น โดยข้อมูลของตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงระหว่างปี 1990 ถึง 2007 พบว่าตำแหน่งงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือส่วนการผลิต โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมีตำแหน่งงานที่ถูกยกเลิกจากการใช้หุ่นยนต์มากถึง 670,000 ตำแหน่ง โดยไม่มีตำแหน่งการจ้างงานใหม่ๆขึ้นมารองรับชัดเจน และอัตรานี้มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นถึง 4 เท่าตัวในอนาคต
การศึกษาครั้งนี้ยังได้เผยถึงรายละเอียดที่น่าสนใจว่า automation นั้นแม้จะช่วยเพิ่ม productivity ในภาคการผลิตเป็นอย่างมาก แต่มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบเชิงลบระยะยาวกับตลาดแรงงานและอัตราผลตอบแทนมากกว่าปัจจัยอื่นที่เป็นที่พูดถึงบ่อยครั้ง เช่นการบริโภคสินค้าจากจีนและแม็กซิโกที่เพิ่มมากขึ้น หรือการ off-shore แรงงานไปยังต่างประเทศ
Pascual Restrepo หนึ่งในผู้ร่วมการศึกษาครั้งนี้เชื่อว่าปัญหาอาจอยู่ที่การจ้างงานทดแทนขึ้นนั้นไม่เกิดขึ้นในจุดที่ผู้ถูกแย่งงานมีความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน
บทบาทของมนุษย์เมื่อเทคโนโลยี automation ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้นนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน บ้างก็กล่าวว่าการใช้หุ่นยนต์จะช่วยเปิดทางให้มนุษย์ใช้เวลาในการทำงานที่สลับซับซ้อนมากขึ้น และบ้างก็กล่าวว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบต่อเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่เนื่องมาจากปัญหาการว่างงาน