โดรนนั้นนับเป็นแก็ดเจ็ตที่ถูกนำไปประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์อยู่เรื่อยๆ และด้วยความสารพัดประโยชน์ของมันนี่เองที่ทำให้โดรนกลายมาเป็นต้นกำเนิดของหลายๆธุรกิจ และหนึ่งในนั้นคือ DroneSeed สตาร์ทอัพด้านสิ่งแวดล้อมที่มีเป้าหมายในการลดภาวะโลกร้อนด้วยการปลูกป่าทดแทน
การตัดไม้ทำลายป่าเป็นปัญหาที่ยาวนานต่อเนื่องในหลายสิบปีที่ผ่าน หากนับแค่จากปี 1990 นั้น มนุษย์ได้ทำลายพื้นที่ป่ารวมกว่า 1200 ล้านตารางกิโลเมตรทั่วโลก ลำพังในการจะปลูกป่าทดแทนใน 1200 ล้านตารางเมตรนี้ต้องใช้งบประมาณถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำลังคน และเวลาอีกมหาศาล จะดีแค่ไหนหากเรามีระบบการปลูกป่าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และใช้ทรัพยากรน้อยกว่า?
คำตอบของปัญหานี้มาในรูปแบบของโดรนจากสตาร์ทอัพ DroneSeed ผู้พัฒนาโซลูชั่นปลูกป่าทดแทนโดยการใช้ซอฟต์แวร์อัตโนมัติในการขับเคลื่อนฝูงโดรนไปยังตำแหน่งที่ระบุ ทำการยิงเมล็ดพันธุ์ไม้ที่ต้องการปลูกด้วยแรงดันลม พร้อมความสามารถในการฉีดพ่นยากำจัดวัชพืช และการรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการประมวลผล โดยฝูงโดรน 15 ลำที่ความจุลำละ 15 ลิตรนี้สามารถทำงานปลูกป่าทดแทนได้เทียบเท่าการปลูก 360 ชั่วโมงของมนุษย์
สตาร์ทอัพ DroneSeed นี้เป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในปัจจุบันที่ได้รับใบอนุญาตให้ใช้โดรนเพื่อการขนส่ง payload ทางการเกษตร เช่น ยากำจัดวัชพืช ปุ๋ย และ น้ำ ให้บริการอยู่ในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในรัฐต่างๆ
การสร้างพื้นที่ป่าเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อนนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม ในยุคปัจจุบันที่โลกถูกรุมเร้าด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมสารพัด การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดดังที่ DroneSeed กำลังทำอยู่นี้คงจะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว