ความต้องการพลังงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆของรัฐมินนิโซตาก่อให้เกิดข้อเรียกร้องในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติใหม่หลายแห่งที่มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 1,800 เมกะวัตต์ภายในปี 2028 ทว่างานศึกษาของ Energy Transition Lab จากมหาวิทยาลัย Minnesota กลับเผยทางออกที่ดีกว่านั้นเมื่อพบว่าการสร้างระบบกริดสะสมพลังงานไฟฟ้าจะมีค่าใช้จ่ายโดยรวมที่ถูกกว่า
ในรายงานการศึกษาดังกล่าว ทีม Energy Transition Lab ได้ระบุในการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเทียบกับค่าใช้จ่ายในการสร้างระบบกริดสะสมพลังงาน ว่าระบบกริดสะสมพลังงานจะมีค่าใช้จ่ายโดยรวมน้อยกว่าโรงไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป เนื่องมาจากราคาของแบตเตอรี่ lithium-ion ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย
ทำไมเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องน่าสนใจ? ประการแรกการใช้ไฟฟ้าพลังงานทดแทนยังมีข้อจำกัดอยู่ และหนึ่งในข้อจำกัดนั้นคือการให้บริการรองรับช่วงเวลาที่มีความต้องการไฟฟ้าสูง (peak time) เนื่องมาจากความไม่แน่นอนของแหล่งพลังงาน เช่น กระแสลมที่มีแค่บางช่วง ซึ่งระบบกริดสะสมพลังงานนี้จะทำให้สามารถสะสมพลังงานในช่วงที่มีกำลังการผลิตมากไว้มาใช้ในเวลาต่อไปได้
ประการที่สองคือการที่ความเชื่อดั้งเดิมที่ว่าระบบกริดสะสมพลังงานนั้นแพงเกินไปเมื่อเทียบกับพลังงานในรูปแบบอื่นๆกำลังจะกลายเป็นความเชื่อเท่านั้น เมื่อแบตเตอรี่ lithium-ion มีต้นทุนที่ต่ำลง การติดตั้งระบบสะสมพลังงานไฟฟ้าก็มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจกลายเป็นเรื่องปกติในไม่ช้า
ก็นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่กำแพงของการใช้พลังงานสะอาดกำลังถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนแล้ว พลังงานทดแทนยังเป็นการลดการทำร้ายสิ่งแวดล้อมและชั้นบรรยากาศของโลกอีกด้วย
