สหราชอาณาจักรเป็นอีกหนึ่งประเทศที่วางมาตรการในการลดผลกระทบที่รถยนต์มีต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการประกาศแผนการแบนการซื้อขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือน้ำมันดีเซลภายในปี 2040
แผนการดังกล่าวนั้นเป็นหนึ่งในมาตรการในการรับมือกับภาวะโลกร้อนพร้อมๆไปกับการส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า โดยกระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบท (Defra) ของสหราชอาณาจักรได้ออกประกาศถึงกลยุทธการในการห้ามซื้อขายรถยนต์และรถแวนใหม่ที่ใช้พลังงานน้ำมันหรือน้ำมันดีเซลภายในปี 2040 พร้อมกับการทุ่มงบประมาณ 332 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเพื่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมระยะสั้น เช่นการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ของรถบัสที่มีอยู่
สหราชอาณาจักรยังมีแผนการในการเปลี่ยนให้ท้องถนนทั่วประเทศให้เป็น zero emission ภายในปี 2050 อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Road and Track ได้เจาะลึกลงไปถึงรายละเอียดของมาตรการในครั้งนี้และพบว่าแผนการแบนนี้ไม่ได้รวมไปถึงการแบนการซื้อขายรถยนต์แบบ hybrid ดังนั้นผู้ผลิตจึงยังสามารถจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้อยู่หากรถยนต์นั้นเป็นระบบ hybrid ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ปัญหามลพิษทางอากาศนั้นเป็นหนึ่งในปัญหาที่ได้รับความกังวลอย่างมากจากสาธารณะ โดยลำพังคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่นั้นคาดการณ์ว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของประชาชนราว 23000 – 40000 รายทั่วประเทศ
การประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นั้นแม้จะฟังดูน่าตกใจ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า ตามกระแสของตลาดที่มีความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ส่วนมากหันมาให้ความสำคัญกับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า