Disney ประกาศเมื่อวานนี้ถึงการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ BAMTech, LLC บริษัท video streaming พร้อมวางแผนเปิดตัวบริการ streaming กีฬาภายใต้แบรนด์ ESPN ในปี 2018 และ streaming สำหรับสื่อต่างๆภายใต้แบรนด์ Disney เองในปี 2019
ดีลมูลค่า 1580 ล้านดอลล่าร์สหรัฐนี้จะทำให้ Disney ถือครองหุ้นของ BAMTech เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากเดิมที่มีอยู่แล้วร้อยละ 33 ซึ่งจะส่งผลให้ Disney มีสถานะเป็นเจ้าของบริษัท BAMTech โดยกลายๆ โดย Disney เชื่อว่าการเข้าซื้อในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ BAMTech เพื่อพัฒนาบริการที่พร้อมแข่งขันในตลาดได้อย่างรวดเร็ว
บริการสตรีมมิ่งภายใต้แบรนด์ ESPN ที่จะเปิดตัวในปี 2018 นี้จะเป็นอีกขั้นหนึ่งของแอพพลิเคชั่น ESPN ที่มีอยู่เดิม โดยสมาชิกของบริการสตรีมมิ่งนี้จะสามารถเข้ารับชมการแข่งขันกีฬาได้ถึง 10,000 รายการทั้งในภูมิภาค ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ซึ่งรวมไปถึงข่าวสารและการวิเคราะห์ต่างๆที่มีอยู่ใน ESPN อยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นสตรีมมิ่งครบวงจรสำหรับแฟนกีฬาเลยทีเดียว
สำหรับสตรีมมิ่งภายใต้แบรนด์ Disney ที่จะเริ่มให้บริการในปี 2019 จะให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งสำหรับภาพยนตร์และซีรีส์ทั้งในรูปแบบ live action และอนิเมชั่นที่ผลิตโดย Disney และ Pixar ซึ่งในจำนวนนี้นั้นรวมไปถึงภาพยนตร์อย่าง Toy Story 4, ภาพยนตร์ภาคต่อของ Frozen, และ Lion King ในแบบฉบับคนแสดง นอกจากนี้แล้ว ทาง Disney ยังมีแผนที่จะลงทุนผลิต original content ใหม่ๆสำหรับผู้ชมบนแพลตฟอร์มนี้โดยเฉพาะอีกด้วย
และเนื่องมาจากแผนการในการเปิดตัวบริการ streaming เป็นของตัวเองนี้เองที่ Disney ตัดสินใจยุติการเผยแพร่ content กับ Netflix โดยเริ่มตั้งแต่ผลงานที่จะปล่อยออกมาในปีปฏิทิน 2019 เป็นต้นไป
ทั้งสองบริการที่ Disney เตรียมจะเปิดตัวนี้อาจดูไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงของ Netflix นัก แต่ก็นับว่า Disney มีตลาดและกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนและเป็นการเดินกลยุทธที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ผลิต content รายใหญ่อย่าง Disney