ฮ่องกงและสิงคโปร์ผนึกกำลังพัฒนานวัตกรรม FinTech

0

ความเป็นผู้นำทางด้านการเงินของฮ่องกงและสิงคโปร์นั้นเรียกได้ว่าสูสีจนโดนยกมาเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยๆ แต่ในวันนี้ทั้งสองได้ตัดสินใจละทิ้งความเป็นคู่แข่งแล้วหันมาทำข้อตกลงจับมือร่วมกันพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการเงิน หรือ fintech ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในงาน HKMA Finctech Day ที่ถูกจัดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา Norman Chan ผู้อำนวยการของ HKMA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของฮ่องกงได้ประกาศเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดงานถึงการเซ็นสัญญาข้อตกลงความร่วมมือของธนาคารกลางของฮ่องกง (HKMA) และสิงคโปร์ (MAS) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการทำงานร่วมกันของภาคธุรกิจ การพัฒนาโครงการนวัตกรรมร่วม และการแบ่งปันข้อมูลและทักษะความรู้

Chan ยังได้เผยต่อไปอีกว่าโครงการร่วมชิ้นแรกระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นจะเป็นโครงการเกี่ยกับการเงินในกระบวนการการค้า (trade finance) ซึ่ง HKMA เป็นผู้นำในการพัฒนาร่วมกับธนาคารอีก 7 แห่งในฮ่องกงบนเทคโนโลยี distributed ledger

ระบบที่มีชื่อเรียกว่า Hong Kong Trade Finance Platform (HKTFP) นี้ใช้เทคโนโลยี distributed ledger เพื่อแปลงเอกสารสำคัญในการค้าทั้งหมดมาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล เปลี่ยนขั้นตอนในการค้าเป็นแบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังช่วยป้องกันความเสี่ยงและการทุจริต โดยทาง HKMA กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับ MAS เรื่องการสร้างระบบพื้นฐานเพื่อเชื่อมต่อระบบ HKTFP นี้เข้ากับแพลตฟอร์มคล้ายๆในในประเทศสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้ทั้งฮ่องกงและสิงคโปร์นั้นต่างก็ได้อัดฉีดเงินลงทุนมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐฯเพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพและสร้าง ecosystem เพื่อพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีทางการเงินกันอย่างเต็มที่ และในภูมิภาคเอเชียเองนั้นธุรกิจ fintech ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2017 นี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกันยายน มีการระดมทุนให้กับสตาร์ทอัพด้าน fintech ไปแล้วกว่า 5000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากการร่วมมือกับสิงคโปร์ในครั้งนี้แล้ว ทาง HKMA ยังได้มีโครงการความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาบริการทางการเงินของเมืองเซินเจิน ประเทศจีน ซึ่งหนึ่งในขอบเขตของความร่วมมือนี้คือโครงการประกวดผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น fintech เพื่อสถาบันการเงินในทั้งสองเมืองที่มีเงินรางวัลสูงถึง 7 ล้านดอลล่าร์ฮ่องกง

“เทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนทุกอย่างสำหรับอนาคตของการธนาคารและบริการจ่ายเงิน มันจะเป็นตัวกำหนดผู้ชนะและผู้แพ้ในเกมนี้” Norman Chan กล่าว