สายการบินในสหรัฐบางรายเริ่มปลดจอสำหรับรับชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมบนเครื่องบินพาณิชย์ที่เรียกกันว่า In-flight entertainment ออก เนื่องจากจอดังกล่าวมีต้นทุนสูง และผู้โดยสารนิยมใช้อุปกรณ์ส่วนตัวเพื่อความบันเทิงในเที่ยวบินมากกว่า
American Airline และ United Airline เป็นสองในบรรดาสายการบินในสหรัฐฯที่กำลังทำการปลดระวางจอบนที่นั่งดังกล่าวในเครื่องบินโดยสารออกให้เหตุผลว่าการติดตั้งหน้าจอเพื่อความบันเทิงเหล่านี้นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยจากการประมาณการณ์ อาจสูงถึง 10,000 เหรียญต่อหนึ่งที่นั่ง โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา อีกทั้งการปลดจอออกนั้นยังทำให้เครื่องบินมีน้ำหนักที่เบาลง
ด้วยเหตุผลด้านต้นทุนดังกล่าว ประกอบกับพฤติกรรมของผู้โดยสารที่มีการพกพาอุปกรณ์หนึ่งเครื่องหรือมากกว่าขึ้นมาใช้ในการโดยสารเครื่องบิน ทำให้หน้าจอดังกล่าวนั้นไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ผ่านมา จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการถอดจอเหล่านี้ออก โดย Dan McKone ประธานบริหารฝ่ายการท่องเที่ยงและคมนาคมของบริษัทที่ปรึกษา L. E. K. กล่าวว่า จะมีแรงกดดันของค่าใช้จ่ายจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆให้สายการบินทำการถอดหน้าจอ in-flight entertainment ออก โดยเฉพาะกับเที่ยวบินระยะสั้นหรือภายในประเทศ
แน่นอนการตัดสินใจในครั้งนี้ย่อมส่งผลให้เกิดเสียงบ่นจากผู้โดยสารหลายๆท่าน ทั้งผู้โดยสารที่เดินทางเพื่อธุรกิจและพกพาอุปกรณ์เพื่อการทำงานโดยเฉพาะ หรือผู้โดยสารที่ไม่ต้องการลงเครื่องบินพร้อมแบตเตอรี่ที่หมดเกลี้ยง
ทว่าผู้โดยสารเหล่านั้นย่อมมีทางเลือกอยู่บ้าง เมื่อสายการบินอื่นๆ เช่น Delta หรือ JetBlue Airways ซึ่งมี in-flight entertainment เป็นจุดขายมาตั้งแต่แรก ยังคงมีความเชื่อมั่นในระบบ in-flight entertainment ดังกล่าว โดยมีความพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบในการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน content ที่ผู้โดยสารสามารถรับชมได้ให้เป็นสื่อที่น่าสนใจ และแตกต่างออกไปในแต่ละเที่ยวบิน โดยมีการคาดการณ์ว่าเทรนด์ของ content ในจอดังกล่าวจะเปลี่ยนไปเป็นสื่อที่ถูกจัดทำขึ้นเฉพาะสายการบินมากขึ้นในปี 2018
การตัดสินใจยกเลิกการให้บริการ in-flight entertainment อาจทำให้ผู้โดยสารหลายๆท่านไม่พอใจ แต่ในขณะเดียวกัน ผู้โดยสารอีกหลายท่านก็อาจไม่ได้ใส่ใจกับการหายไปของหน้าจอเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ