งานวิจัยตีพิมพ์ลงใน Journal of Monetary Economics ฉบับล่าสุดที่เขียนโดย Neil Gandal, JT Hamrick, Tyler Moore, และ Tali Oberman ได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ”ปั่น”ราคาสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin ที่เกิดขึ้นในอดีต
งานวิจัย “Price Manipulation in the Bitcoin Ecosystem” นี้เล่าถึงเรื่องราวของการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนที่น่าสงสัยบนเว็บไซต์ซื้อขายแลกเปลี่ยน Mt. Gox ซึ่งก่อให้เกิด bitcoin จำนวน 600,000 เหรียญ (มูลค่าราว 188 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในขณะนั้น) อย่างไม่ชอบธรรม โดยนักวิจัยผู้ตีพิมพ์งานวิจัยฉบับนี้คาดว่า การซื้อขายแลกเปลี่ยนน่าสงสัยเหล่านี้ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2013 นั้นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราการแลกเปลี่ยนระหว่างเหรียญบิตคอยน์และสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐพุ่งสูง จาก 150 ดอลล่าร์ในตอนแรกขึ้นไปเป็น 1000 เหรียญสหรัฐในอีก 2 เดือนให้หลัง
การชักใยในกรณี Mt. Gox ดังกล่าวนี้ในรายงานวิจัยระบุว่าเป็นฝีมือจาก bot เพียงที่ใช้ชื่อว่า Markus และ Willy ซึ่งทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่”ดูเหมือน”จะปกติทว่าไม่มีการแลกเปลี่ยน bitcoin ขึ้นแต่อย่างใด โดยการโจมตีที่เกิดจากกลุ่มบอททั้ง 2 ชนิดดังกล่าวนั้นนอกจากจะก่อให้เกิด volume การซื้อขายที่มากขึ้นอย่างมีนัยยะแล้ว ยังทำให้ผู้โจมตีได้รับ bitcoin ไปเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการกระทำของคนๆเดียว
ทีมวิจัยพบว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ bitcoin หรือ cryptocurrency อื่นๆที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นนั้นถูกชักใยเบื้องหลังได้ง่ายนั้นเกิดขึ้นจากตลาดที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลในช่วงแรกๆนั้นเป็นตลาดที่บาง(หมายถึงเป็นตลาดที่มีผู้ซื้อและผู้ขายน้อยราย) นักลงทุนจึงควรระมัดระวังในการลงทุนโดยเฉพาะในปัจจุบันที่มี cryptocurrency ใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างมากมาย
“สถาบันการเงินกระแสหลักนั้นกำลังลงทุนในหลักทรัพย์ cryptocurrency และหลายๆประเทศก็ได้ออกมาพยายามกำหนดเกณฑ์การควบคุมที่เหมาะสมให้กับสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ มันจึงสำคัญที่เราจะเข้าใจว่า cryptocurrency นั้นอ่อนแอต่อการถูกชักใยเพียงใด และงานวิจัยของพวกเราก็ได้มอบตัวอย่างหนึ่งให้[ได้ศึกษากัน]แล้ว” เจ้าของผลงานวิจัยชิ้นนี้กล่าวในเปเปอร์
ณ เวลาที่เขียนนี้ bitcoin มีมูลค่าราวเหรียญละ 12,650 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นราคาที่ปรับตัวขึ้นหลังจากตกลงไปต่ำกว่ากำแพง 12,000 ดอลล่าร์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์
