คุณคิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่ร่วมกันระหว่างสถานีอวกาศนานาชาติกับเรื่องสถานีตำรวจ? ถ้าคำตอบคือเรื่องแนวทางการนำการเรียนรู้ของเครื่องหรือ Machine Learning มาใช้งาน คำตอบนั้นเป็นคำตอบที่ถูกต้อง โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างเพื่อสนับสนุนการใช้งานในอวกาศนั้นได้ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรม อีกทั้งยังเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพที่จะช่วยให้สามารถคัดกรองข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างจำลองเหตุการณ์ และค้นหาผู้กระทำความผิดได้
ระบบเวอร์ชันเริ่มต้นนั้นถูกสร้างโดยบริษัท Space Applications Services เมื่อประมาณ 15 ปีก่อน โดยถูกออกแบบเพื่อตอบคำถามให้กับนักอวกาศ เช่น “นี่คืออะไร” หรือ “สิ่งนี้อยู่ที่ไหน” ในสถาบันฝึกอบรมอวกาศยุโรป (European Space Agency:ESA) ห้องปฏิบัติการวิจัยโคลัมบัส และเมื่อเทคโนโลยีต่างๆ ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงทำให้เริ่มมีการนำมาใช้ในโทรศัพท์มือถือแทนแบบเดิมๆ โดยระบบนี้จะเริ่มนำมาทดสอบในช่วงปี 2561 กับคุณ Alexander Gerst นักบินอวกาศที่จะถูกส่งขึ้นไปคนถัดไปของ ESA
นอกจากศักยภาพของ AI ที่ช่วยลดภาระงานต่างๆ เกี่ยวกับการบินได้แล้วนั้น มันยังสามารถลดอัตราความเสี่ยงที่เกิดจากแรงงานคนได้อีกด้วย ซึ่งรวมไปถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายด้วยเช่นกัน โดยระบบการเรียนรู้ของเครื่องสามารถที่จะประมวลผลภาพจากกล้องรักษาความปลอดภัยหลายพันชั่วโมงและดึงวิดีโอที่เกี่ยวข้องออกมาได้ตามที่ส่งคำร้องไป โดยตำรวจเบลเยียมเริ่มนำระบบนี้มาใช้ทดสอบ โดยประยุกต์กับข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้งข้อมูล text ที่บันทึกไว้ ข้อมูลจาก social media ซึ่งสามารถสืบค้นและแสดงผลลัพธ์ออกมาได้ภายในไม่กี่วินาที เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การวิเคราะห์คดีอาชญากรรมที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมากสำเร็จได้เพียงแค่กดคลิก ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่ยุคใหม่ของกระบวนการยุติธรรมได้ภายในกลางปี พ.ศ.2561 นี้
เบลเยี่ยมนั้นอาจเป็นประเทศล่าสุดที่นำ AI มาช่วยในด้านกฎหมาย แต่ก่อนหน้านี้มีอีกหลายๆ ประเทศที่ได้เดินหน้านำเรื่อง AI ไปใช้ในด้านต่างๆ เช่น ประเทศจีนได้พยายามนำ AI มาทำนายว่าประชาชนคนใดที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม หรือดูไบเองก็ได้แนะนำหุ่นยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น ซึ่งทั่วโลกตอนนี้ก็เริ่มมีหลายๆ ชาติหันมาสนใจ และเสาะหาเทคนิคใหม่ๆ ที่ช่วยให้ประชากรภายในประเทศนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น