สิงคโปร์ได้ออกมาประกาศทดสอบการใช้ระบบรู้จำใบหน้าหรือ Facial Recognition เพื่อระบุตัวตนของผู้คนที่เดินทางสัญจรอยู่ภายในสิงค์โปร์ สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลและต่อต้านการก่อการร้าย โดยอนาคตอาจมีการติดตั้งกล้องบนเสาไฟมากกว่า 100,000 ต้น
GovTech หน่วยงานของรัฐบาลสิงคโปร์ที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับงานทางด้านภาครัฐ ได้ออกมาเปิดเผยถึงโครงการทดสอบที่มีชื่อว่า Lamppost-as-a-Platform (LaaP) ซึ่งจะเริ่มทดสอบในปี 2019 โดยมีแนวคิดในการติดตั้ง Sensor และกล้องวงจรปิดที่มีความสามารถในการทำ Facial Recognition บนเสาไฟสำหรับให้แสงสว่าง เพื่อรวบรวมข้อมูลและนำไปใช้ในแง่มุมต่างๆ เช่น Crowd Analytics หรือการวิเคราะห์เหตุการณ์ก่อการร้ายหรือภัยคุกคามต่างๆ
โครงการนี้เป็นหนึ่งในแผน Smart Nation ของสิงคโปร์ที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและผู้ที่เดินทางมายังสิงคโปร์ ซึ่งการนำ Facial Recognition มาใช้กับกล้องวงจรปิดก็อาจนำมาซึ่งความวิตกด้านความเป็นส่วนตัวของประชาชนไม่น้อยทีเดียว โดยเทคโนโลยีลักษณะเดียวกันนี้ปัจจุบันได้ถูกใช้งานแล้วใน Beijing และ Shanghai ประเทศจีน
ทางการสิงคโปร์ได้ออกมาเผยถึงแง่มุมด้านความเป็นส่วนตัวของประชาชนว่า รัฐบาลเองก็มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องข้อมูลส่วนตัวของประชาชนเป็นหลักหนึ่งในประเด็นสำคัญเชิงเทคนิคของโครงการนี้อยู่แล้ว และ Sensor อื่นๆ ที่ติดตั้งบนเสาเดียวกันนี้ก็จะทำให้ภาครัฐมีข้อมูลเรื่องคุณภาพอากาศ, ระดับน้ำ, ปริมาณการสัญจร และข้อมูลอื่นๆ เพื่อนำไปใช้ต่อยอดในการแก้ไขปัญหรือหรือวางผังเมืองเพิ่มเติมในอนาคตได้ด้วย
สำหรับตัวเลขของเสาไฟที่จะติดตั้งนี้ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ Peter Ong ผู้ที่เคยรับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ระบุในปี 2017 ที่ผ่านมาว่ามีแผนจะติดตั้ง Sensor นเสาไฟทั้งหมด 110,000 ต้นทั่วเกาะสิงคโปร์